รัฐบาลเมียนมาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาในรายงานของสหประชาชาติที่ว่า กองทัพเมียนมาได้ "สังหารล้างเผ่าพันธุ์" ชาวมุสลิมโรฮิงจะในรัฐยะไข่
เมื่อวันจันทร์ คณะกรรมการอิสระเพื่อหาข้อเท็จจริงของหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ นำเสนอรายงานความยาว 400 หน้า ว่าด้วยการกระทำอันชั่วร้ายและการก่อกรรมทำเข็ญ ที่ทาง UN ระบุว่าเป็นคำสั่งของกองทัพเมียนมาในการจัดการกับชนกลุ่มน้อย
รายงานดังกล่าวได้กล่าวหาผู้นำระดับสูงของกองทัพเมียนมา 6 นาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมที่สร้างความรุนแรงมากที่สุดภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่ 3 คนจากคณะทำงานอิสระของ UN ระบุว่า การก่ออาชญากรรมเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในเมียนมา ทำให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่ของผู้ลี้ภัยมุสลิมโรฮิงจะมากกว่า 700,000 คน ไปยังบังคลาเทศเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผู้นำระดับสูงของกองทัพเมียนมาได้เตรียมการเรื่องนี้มานานหลายปี
แต่ในวันพุธ โฆษกรัฐบาลเมียนมา ซอว์ ฮเตย์ กล่าวผ่านสื่อของทางการเมียนมาว่า เมียนมาไม่ยอมรับมติของสหประชาชาติและรายงานฉบับนี้ และรัฐบาลเมียนมาจะจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงจากสหประชาชาติ
โฆษก ซอว์ ฮเตย์ ยังได้กล่าวประณามการตัดสินใจของเฟสบุ๊กที่สั่งปิดหน้าเพจเฟสบุ๊กของนายพล มิน อ่อง ฮเลียง และผู้บัญชาการทหารระดับสูงคนอื่นของเมียนมา สืบเนื่องจากข้อหล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ด้วย