องค์การอาหารและการเกษตรของสหประชาชาติ หรือ FAO ระบุว่า การใช้ยาประเภทต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์มากเกินไป ไม่ว่าจะใช้ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อราหรือปรสิต กำลังก่อให้เกิดความกังวลด้านสาธารณสุข และถือเป็นภัยคุกคามทั้งต่อมนุษย์และสัตว์
เมื่อเร็วๆ นี้ องค์การอาหารและการเกษตรของสหประชาชาติ หรือ FAO มีคำแถลงเรื่องการใช้ยาประเภทต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์มากเกินไป ซึ่งกำลังก่ออันตรายด้านสุขภาพทั้งกับคนและสัตว์ และเป็นสาเหตุให้มีเชื้อจุลินทรีย์และเชื้อโรคดื้อยามากขึ้น ตัวอย่างเช่น เชื้อวัณโรคที่ดื้อยาหลายขนาน
ประเด็นเรื่องการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ดื้อยา หรือ AMR จะถูกนำมาหารือในการประชุมระดับสูงของสหประชาชาติในวันที่ 21 ก.ย.นี้ โดยคำถามสำคัญคือปัจจุบันมีการใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์อย่างแพร่หลายแค่ไหน?
คำตอบของเรื่องนี้ยังอยู่ในอากาศ แต่ที่ชัดเจนคือทั้งมนุษย์และสัตว์ต่างได้รับผลกระทบจากเชื้อจุลินทรีย์ดื้อยาไม่น้อยไปกว่ากัน รวมทั้งบรรดาสัตว์เลี้ยงที่ล้มป่วยและต้องการยาประเภทแอนตี้ไบโอติกในการรักษาด้วย
ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้บอกด้วยว่า ยาต้านเชื้อจุลินทรีย์ยังมีบทบาทสำคัญในการใช้รักษาปศุสัตว์และพืชผลต่างๆ เรียกว่ากระจายอยู่ในวงจรความมั่นคงด้านอาหาร และระบบสาธารณสุขของมนุษย์และสัตว์ทั่วโลก
FAO ได้จัดทำแผนปฏิบัติการ 4 ขั้น เพื่อยับยั้งการแพร่กระจายของยาต้านเชื้อจุลินทรีย์ หนึ่งคือการสร้างความตระหนักให้กับประชาชนทั่วไป ถึงอันตรายของจุลินทรีย์ดื้อยา สองคือการเก็บรวบรวมหลักฐาน ตลอดจนการตรวจสอบอย่างละเอียด และรายงานทันทีเมื่อพบเชื้อจุลินทรีย์ดื้อยา
ขั้นที่สามคือการขอให้หน่วยงานต่างๆ เพิ่มความร่วมมือในการรับมือปัญหานี้ รวมทั้งแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน และสี่คือการประชาสัมพันธ์วิธีที่ถูกต้องในการใช้ยาต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ซึ่งอาจรวมถึงการหยุดใช้ยาต้านเชื่อจุลินทรีย์กับบรรดาปศุสัตว์ที่เป็นอาหารของมนุษย์ด้วย
ดร.ฮวน ลูบรอทธ์ แห่ง FAO กล่าวว่าผู้บริโภคควรมีอำนาจพอที่จะกดดันรัฐบาลของตน หรือบริษัทผู้ผลิตอาหารต่างๆ เพื่อให้อาหารมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยรัฐบาลควรรับฟังเสียงเรียกร้องและความกังวลของผู้บริโภคเหล่านั้นเช่นกัน
ผู้เชี่ยวชาญขององค์การอาหารและการเกษตรของสหประชาชาติ กล่าวส่งท้ายว่า ในระยะยาว จะสามารถเห็นประโยชน์จากการยับยั้งการใช้ยาต้านเชื้อจุลินทรีย์ ที่มีต่อสุขภาพของสิ่งมีชีวิตบนโลก ได้อย่างชัดเจน
(ผู้สื่อข่าว Joe De Capua รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)