รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนและรัสเซียร่วมเจรจากันที่ตุรกีในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการเจรจาของเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของสองประเทศนับตั้งแต่กองทัพรัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่การเจรจา 90 นาทีจบลงโดยไร้ความคืบหน้าสำคัญ
รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิโทร คูเลบา กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการเจรจาว่า ตนได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ เกี่ยวกับการหยุดยิงเป็นเวลา 24 ชม. แต่ยังไม่มีความคืบหน้า และว่าการเจรจาครั้งนี้เป็นไปอย่าง "ยากลำบาก" เนื่องจาก รมต.ลาฟรอฟ พยายามพูดอย่างเป็นทางการในการเจรจา พร้อมยืนยันว่ายูเครนจะไม่ยอมพ่ายแพ้ในสงครามนี้
ทางด้านรัฐมนตรีลาฟรอฟ กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะเจรจากับยูเครนต่อไป และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็พร้อมที่จะพบหารือกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เพื่อหาทางออกในวิกฤติครั้งนี้
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียยังกล่าวหาชาติตะวันตกว่าเป็นตัวการทำให้เกิดความขัดแย้ง และรัสเซียถูกดดันให้ต้องใช้ปฏิบัติการทางทหารเนื่องจากประเทศทางตะวันตกปฏิเสธข้อเสนอเพื่อรับรองความมั่นคงปลอดภัยของรัสเซีย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในวันพฤหัสบดีผ่านสถานีข่าวในเยอรมนีว่า "การเจรจาโดยตรงระหว่างประธานาธิบดีสองประเทศเท่านั้นที่จะยุติสงครามครั้งนี้ได้"
การเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทสของรัสเซียและยูเครนครั้งนี้จัดขึ้นที่ตุรกีโดยมีรัฐบาลตุรกีเป็นตัวกลาง และมีขึ้นในขณะที่ทั่วโลกกำลังประณามรัสเซียจากการโจมตีโรงพยาบาลผดุงครรภ์แห่งหนึ่งในเมืองมารีอูโพล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตสามคน เป็นเด็กหญิงหนึ่งคน