การลงประชามติเพื่อผนวกพื้นที่บางส่วนของยูเครนที่กองทัพมอสโกยึดครองอยู่เข้ากับรัสเซียเริ่มต้นขึ้นแล้วในวันศุกร์ ขณะที่ ชาติตะวันตกและรัฐบาลกรุงเคียฟกล่าวว่า การลงคะแนนเสียงนี้คือเรื่องตบตา และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางรายระบุว่า ชาวบ้านนั้นถูกข่มขู่ให้ทำการลงมติเลือกรัสเซียด้วย
การทำประชามติที่ว่านี้ถูกกำหนดขึ้นในเขตปกครองลูฮันสก์ และเคอร์ซอน รวมทั้งพื้นที่บางส่วนของซาปอริห์เชีย และเขตปกครองดอแนสตก์ ที่กองทัพมอสโกควบคุมไว้อยู่ โดยเปิดให้ประชาชนลงคะแนนตั้งแต่วันศุกร์จนถึงวันอังคารหน้า เพื่อเลือกว่า จะผนวกดินแดนทั้งหมดนี้เข้ากับรัสเซียหรือไม่
นอกจากนั้น ยังมีการเปิดการลงมติในรัสเซีย ให้กับผู้ลี้ภัยและประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ข้างต้นออกเสียงด้วย
องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe - OSCE) ระบุในแถลงการณ์ว่า “การเลือกตั้งหรือลงประชามติใด ๆ บนผืนดินของยูเครน จะทำได้ด้วยการประกาศโดยทางการที่มีอำนาจถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นไปตามกฎหมายของประเทศรวมทั้งมาตรฐานสากลเท่านั้น” และว่า “ดังนั้น แผนการทำ ‘ประชามติ’ (นี้) จึงผิดกฎหมาย”
เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยด้วยว่า ประชาชนถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางออกจากพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียยึดครองอยู่จนกว่าการลงมติจะเสร็จสิ้น และกลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ ยังเดินทางไปตามบ้านเรือนเพื่อบังคับผู้คนให้ออกมาลงคะแนน ขณะที่ ลูกจ้างทั้งหลายก็ได้รับการแจ้งว่า จะถูกเลิกจ้างหากไม่ยอมเข้าร่วมการลงมตินี้
ยูรี โซโบเลฟสกี รองประธานคนที่ 1 ของสภาเขตปกครองเคอร์ซอนที่ลี้ภัยออกมาจากพื้นที่ให้ความเห็นว่า “ในวันนี้ สิ่งที่ดีที่สุดที่ประชาชนในเคอร์ซอนจะทำได้ก็คือ ไม่เปิดประตูบ้านรับใครเลย”
รายงานข่าวระบุว่า ผลการลงมติที่น่าจะออกมาทันทีที่มีการปิดหีบก็คือ เสียงสนับสนุนให้มีการผนวกพื้นที่ที่เกี่ยวข้องเข้ากับรัสเซีย
เดนิส พูชิลิน ผู้นำเขตปกครองดอแนตสก์ซึ่งหนุนรัสเซีย กล่าวว่า “เรากำลังจะได้กลับบ้าน” และว่า “ดอนบาสคือรัสเซีย” ส่วน เลโอนิด พาเซคนิค ผู้นำเขตปกครองลูฮันสก์ที่หนุนรัสเซียเช่นกัน กล่าวว่า “เราทุกคนเฝ้ารอผลมติให้เข้าร่วมกับรัสเซียมานาน 8 ปีแล้ว” และว่า “เราได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และสิ่งที่ยังต้องทำให้สำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็คือ การเอาชนะ [สงคราม]”
หากรัสเซียประสบความสำเร็จในการผนวกพื้นที่ทั้ง 4 จุดที่ว่านี้ กรุงมอสโกจะสามารถอ้างได้ว่า ความพยายามของยูเครนในการยึดพื้นที่ดังกล่าวกลับคืน คือ การโจมตีรัสเซีย ซึ่งอาจนำไปสู่การอ้างเหตุผลในการใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพีและรอยเตอร์