นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ กล่าวในวันอังคารว่า ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัดเจนว่าไวรัสกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดีย จะมีผลต่อการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้
ผู้นำอังกฤษ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ศูนย์แจกจ่ายวัคซีนขนาดใหญ่ในอังกฤษ ย้ำว่าทางสาธารณสุขอังกฤษจะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดีย ว่าเป็นไวรัสที่แพร่เชื้อได้รวดเร็วขึ้นหรือไม่และในระดับรุนแรงแค่ไหน แต่ขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานบ่งชี้ว่า ไวรัสกลายพันธุ์จากอินเดียนี้จะมีผลกระทบต่อแผนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดในอังกฤษ
เมื่อวันจันทร์ อังกฤษ เข้าสู่ขั้น 3 จาก 4 ขั้นตอนของแผนการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด ซึ่งระยะนี้สามารถกลับมาเปิดผับ บาร์ ร้านอาหารให้ลูกค้าทานในร้านได้ และเตรียมขยับเข้าสู่ขั้น 4 ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ซึ่งจะปลดล็อคทุกมาตรการออกไปทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ขอให้ประชาชนระมัดระวัง และรัฐบาลจะมีแผนการเกี่ยวกับการรับมือไวรัสกลายพันธุ์เพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ แต่ระหว่างนี้ได้เตือนให้พลเมืองหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในระดับสูง แต่หากจำเป็นต้องเดินทาง จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อและกักตัว 10 วันที่บ้านหลังกลับมาถึงอังกฤษ
แม้ว่าอังกฤษจะมีอัตราการติดเชื้อ เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตในทิศทางขาลงมาตลอด แต่อังกฤษพบการติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์จากอินเดียในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และบางส่วนในกรุงลอนดอนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันอังคาร ระบุว่า อังกฤษมีผู้ติดเชื้อสะสมราว 4.5 ล้านคน เสียชีวิตเกือบ 128,000 ราย