มหานครนิวยอร์ก เป็นเมืองใหญ่แห่งแรกในอเมริกา ที่บังคับใช้มาตรการให้ผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมในอาคารปิด ทั้งการเข้าร้านอาหาร ผับบาร์ และฟิตเนส จะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนก่อนใช้บริการ
นายกเทศมนตรีมหานครนิวยอร์ก บิล เดอ บลาซิโอ ประกาศมาตรการแสดงหลักฐานฉีดวัคซีนก่อนเข้าอาคารสาธารณะเมื่อวันอังคาร ระบุว่า ทางมหานครนิวยอร์ก ได้พัฒนาระบบ NYC Pass เพื่อให้ผู้ใช้แสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน และจะมีผลบังคับใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ในมาตรการใหม่นี้ ยังระบุให้พนักงานในภาคธุรกิจต่างๆต้องเข้ารับวัคซีนด้วยเช่นกัน ตามหลังเมื่อวันจันทร์ที่ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก แอนดรูว์ คูโอโม ที่ประกาศให้ภาคธุรกิจในพื้นที่ปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก มุ่งเน้นให้ชาวนิวยอร์กเกอร์เข้ารับวัคซีนโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด ในขณะที่ยังค้านเสียงเรียกร้องจากพลเมืองที่ต้องการให้นำมาตรการสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะที่เป็นอาคารปิดเป็นมาตรการบังคับ เหมือนอย่างที่รัฐแคลิฟอร์เนียนำมาตรการดังกล่าวกลับมาใช้ ท่ามกลางการระบาดของโควิดกลายพันธุ์เดลตาในสหรัฐฯ โดยบอกแต่เพียงว่า เขาแนะนำให้สวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะที่เป็นอาคารปิดเท่านั้น
ข้อมูลจากทางการมหานครนิวยอร์ก ระบุว่า ชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ราว 66% ในพื้นที่ ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
นอกจากมหานครนิวยอร์กแล้ว เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด ประกาศในวันจันทร์ให้พนักงานที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดเชื้อในระดับสูงต้องเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนรัฐนิวเจอร์ซีย์ กำหนดให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ทัณฑสถาน และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ต้องเข้ารับวัคซีนโควิด ไม่เช่นนั้นจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้งต่อสัปดาห์
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ หรือ CDC เมื่อวันจันทร์ ระบุว่า ชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ 70% ได้รับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 1 เข็ม ช้ากว่าเป้าหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ตั้งเป้าไว้เมื่อ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ผู้รับวัคซีนครบโดสยังไม่ถึงครึ่งของประชากร 332 ล้านคนของสหรัฐฯ
ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนของชาวอเมริกัน ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ราว 800,000 โดส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่วนยอดติดเชื้อใหม่เฉลี่ย 85,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นจาก 10,000 รายต่อวันเมื่อช่วงเดือนก่อน ท่ามกลางความกังวลของทีมนักวิทยาศาสตร์ ที่ประเมินว่า ยอดติดเชื้อรายวันในสหรัฐฯ อาจพุ่งสูงถึง 300,000 รายต่อวันได้ในเดือนสิงหาคม
(ข้อมูลบางส่วนจาก Associated Press, AFP และ Reuters)