ผลกระทบจากพายุมรสุมฤดูฝนที่รุนแรงได้คร่าชีวิตผู้คนหลายสิบคนและกระทบความปลอดภัยของประชาชนหลายล้านคนในบังกลาเทศ ขณะที่ น้ำท่วมฉับพลันในอินโดนีเซียได้ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิตนับสิบเช่นกัน
ฝนที่ตกหนักบนเกาะเทอร์เนต ทางตะวันออกของอินโดนีเซีย ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันที่พัดพาบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นาหายไปกับสายน้ำ ทั้งยังทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คนในวันอาทิตย์ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่
กระแสน้ำที่พัดแรงยังทำให้ถนนสายหลักบนเกาะนี้ขาด และตัดทางเข้าออกหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดมาลูกูเหนือ ซึ่งเป็นจุดประสบภัยหนักที่สุด ขณะที่ บ้านและอาคารหลายสิบหลังถูกโคลนฝังกลบ โดยเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยได้ร่วมมือกับชาวบ้านในการกู้ร่างของเหยื่อและหาผู้ที่รอดชีวิตอย่างต่อเนื่อง
หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียพยากรณ์ว่า ฝนยังจะตกหนักอย่างต่อเนื่องต่อไปในพื้นที่เมืองเทอร์เนตและพื้นที่รอบ ๆ อีกระยะหนึ่ง และทางการได้เตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดพร้อมรอฟังคำแนะนำในกรณีเกิดน้ำท่วมระลอกใหม่ด้วย
ส่วนที่บังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คน และประชาชนกว่า 5.2 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมเพราะฝนในฤดูมรสุมที่ทำให้น้ำในแม่น้ำล้นตลิ่ง ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันอาทิตย์
ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและตกอยู่ในสถานการณ์ที่ขาดแคลนอาหาร น้ำสะอาด ยาและเสื้อผ้าที่แห้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ถนนถูกตัดขาดจนหน่วยกู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงได้
โมฮัมหมัด ยูนุส ประธานที่ปรึกษารัฐบาล ระบุในการกล่าวแถลงทางโทรทัศน์ว่า รัฐบาลได้ใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อจะทำให้สถานการณ์ของเหยื่ออุทกภัยสามารถกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดแล้ว
ยูนุส ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ รับหน้าที่เป็นผู้นำรัฐบาลเฉพาะกาล หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ภายหลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา ลี้ภัยออกจากประเทศเพราะถูกกดดันจากการชุมนุมประท้วงหนักทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน มีประชาชนบางส่วนในบังกลาเทศอ้างว่า ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเปิดประตูน้ำของเขื่อนในอินเดีย ซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่รัฐบาลนิวเดลีออกมาปฏิเสธและยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ หน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของบังกลาเทศเตือนว่า ภาวะน้ำท่วมนี้จะดำเนินต่อไป หากลมฝนฤดูมรสุมยังไม่ซาลง
- ที่มา: รอยเตอร์และเอพี
กระดานความเห็น