มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนจากการโจมตีที่พิพิธภัณฑ์ Bardo ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวในกรุงตูนิสเมืองหลวงของตูนีเซีย
รายงานข่าวระบุว่ามือปืนสองคนบุกเข้าไปบริเวณพิพิธภัณฑสถานดังกล่าว แล้วใช้ปืนไล่ยิงนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะจับนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งไว้เป็นตัวประกัน
มือปืนทั้งสองคนถูกสังหารระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกัน แต่ตำรวจกำลังไล่ล่าผู้ต้องสงสัยอีก 3 คน ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในตูนีเซียครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ตูนีเซียบอกว่าขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวอยู่ในพิพิธภัณฑ์ราว 100 คนนอกจากผู้เสียชีวิตที่คาดว่ามีมากกว่า 20 คนแล้ว ยังมีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน
นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตเชื่อว่ามีอย่างน้อย 17 คน ซึ่งเป็นชาวโคลัมเบีย สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี โปแลนด์ อิตาลี และมีชาวตูนีเซีย 2 คน
นายกรัฐมนตรี Habib Essid ประนามเรื่องดังกล่าวว่าเป็นความพยายามทำลายเศรษฐกิจประเทศ และอาจารย์ Said Sadek ผู้สอนวิชาสังคมวิทยาการเมืองในกรุงไคโรเชื่อว่ากลุ่มหัวรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นหลังปี 2011 จากการประท้วงที่เรียกกันว่า Arab Spring เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามนาย Yan St. Pierre ผู้เป็น CEO ของบริษัทด้านความมั่นคง MOSECON ในกรุงเบอร์ลินกลับมีความเห็นว่า พิพิธภัณฑ์ Bardo ตกเป็นเป้าของการโจมตีเพราะตั้งอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภาซึ่งกำลังจะมีการลงคะแนนในร่างกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายฉบับใหม่ในวันเดียวกัน
การโจมตีดังกล่าวเป็นผลให้มีการอพยพคนออกจากอาคารรัฐสภาทำให้ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายที่ว่านี้ได้ นาย Yan St. Pierre ยังเชื่อด้วยว่าการมุ่งเป้าโจมตีเป้าหมายอ่อน เช่นพิพิธภัณฑ์ซึ่งไม่มีการป้องกันตนเองอย่างแน่นหนามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อไป