หนังสือเล่มใหม่ของนักข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน บ๊อบ วู้ดวาร์ด แห่งหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ระบุว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่าโคโรนาไวรัสเป็นอันตรายถึงชีวิตตั้งแต่ต้นปี แต่จงใจที่จะบอกประชาชนอเมริกันว่าไวรัสชนิดนี้ไม่รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
ข่าวนี้ได้กลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ในสหรัฐฯ หนังสือเล่มนี้ที่ชื่อ Rage ได้ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่มีการอัดเทปทั้งหมด 18 ครั้ง และในวันที่ 19 มีนาคม ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับบ๊อบ วู้ดวาร์ดว่าเขา ต้องการที่จะไม่ทำให้โคโรนาไวรัสเป็นเรื่องใหญ่
หลังจากที่ถูกวิจารณ์ถึงความจงใจที่จะไม่เปิดเผยอันตรายของโคโรนาไวรัสต่อสาธารณชน ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ต่อ ฌอน แฮนนิตี้ นักจัดรายการของช่องฟ็อกซ์ นิวส์ เมื่อวานนี้
เขากล่าวว่าในฐานะผู้นำประเทศ ตน “ไม่สามารถที่จะกระโดดโลดเต้น และทำให้ประชาชนกลัวได้” ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่าเขาไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก
ทั้งนี้ในหนังสือเล่มนี้ บ๊อบ วู้ดวาร์ด เขียนว่า เมื่อโคโรนาไวรัสแพร่จากจีนไปยังประเทศต่างๆ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว โรเบิร์ต โอไบรอัน บอกกับประธานาธิบดีทรัมป์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 มกราคมว่า เหตุการณ์นี้อาจเป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติครั้งใหญ่ที่สุดในการบริหารประเทศของทรัมป์
สิบวันหลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์โทรศัพท์หาบ๊อบ วู้ดวาร์ด และกล่าวว่าสถานการณ์น่ากลัวกว่าที่คิด ผู้นำสหรัฐฯบอกด้วยว่า “เป็นเหตุการณ์ที่ละเอียดอ่อน” และยอมรับว่าไวรัสชนิดนี้เป็นอันตรายถึงชีวิต
อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าประชาชน ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่าการระบาดจะหมดไปในไม่ช้า และโคโรนาไวรัสไม่ได้มีอันตรายไปกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
และเมื่อนักข่าวเสนอรายงานเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ โฆษกทำเนียบขาว เคย์ลีห์ เม็คเอ็นนานี กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำในสิ่งที่ผู้นำควรจะทำ คือ “รักษาประเทศให้มีความสงบ”
เธอกล่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์ เผชิญกับงานชิ้นสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ในการจัดการกับโควิด-19 และทราบดีถึงความสำคัญของชีวิตคน
เธอกล่าวเสริมว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ได้พูดถึงความร้ายแรงของโรคนี้ตั้งแต่เดือนมีนาคมว่า อาจทำให้ประชาชนเสียชีวิตนับแสนคน
ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 8 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ วันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งทรัมป์ ต้องแข่งกับโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต
ไบเดน ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินสายหาเสียงในรัฐมิชิแกนที่เขามีความนิยมคู่คี่กับทรัมป์ ตำหนิการทำงานของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการจัดการกับการระบาดของโควิด-19 ซึ่งขณะนี้คร่าชีวิตชาวอเมริกันไปแล้วเกือบ 190,000 คน และมีผู้ติดเชื้อไปแล้วกว่า 6 ล้าน 3 แสนคนในอเมริกา
โจ ไบเดน กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์จงใจโกหกต่อชาวอเมริกัน เกี่ยวกับอันตรายของโคโรนาไวรัสเป็นเวลาหลายเดือน เขาตำหนิด้วยว่าทรัมป์ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างจงใจ
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอเมริกัน อ้างอิงการประเมินจากการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่าอาจมีคนอเมริกันเสียชีวิตเพิ่ม เป็น 410,000 คนราวต้นปีหน้า
อาจารย์ด้านการเมือง ทอดด์ เบลท์ จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวว่าหนังสือเล่มนี้ของ บ๊อบ วู้ดวาร์ดสามารถถูกใช้เพื่อตำหนิและสนับสนุนทรัมป์ได้ในเวลาเดียวกัน
กล่าวคือฝ่ายรีพับลิกันสามารถบอกได้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงความเป็นผู้นำในการไม่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ส่วนฝ่ายเดโมแครตสามารถบอกได้ว่าทรัมป์ตัดสินใจพลาด และทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ทั้งนี้บ๊อบ วู้ดวาร์ดสร้างชื่อเสียงระดับชาติเมื่อ 40 กว่าปีก่อน จากรายงานของเขาร่วมกันนักข่าวอีกคนหนึ่ง คาร์ล เบิร์นสตีน ที่ร่วมเปิดโปงการกระทำผิดทางการเมืองในเหตุการณ์ ‘วอร์เตอร์เกต’ ซึ่งนำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน
บ๊อบ วู้ดวาร์ด เขียนในหนังสือ Rage โดยอ้างแหล่งข่าวด้วยว่า นายแพทย์แอนโธนี เฟาชี ผู้ทำหน้าที่ร่วมเป็นโฆษกด้านนโยบายสาธารณสุขของรัฐช่วงการระบาดของโควิด-19 เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ “มีสมาธิในระดับติดลบ” และ “จุดมุ่งหมายเดียวที่เขามีคือการได้รับการเลือกตั้ง”
เมื่อสองปีก่อน บ๊อบ วู้ดวาร์ด ออกหนังสือ หนังสือ Fear: Trump in the White House ในครั้งนั้น นำข้อมูลเชิงลึกจากการสัมภาษณ์บุคคลใกล้ชิดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อยู่ในคณะทำงานของทำเนียบขาวหลายสิบคน อาทิ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว จอห์น เคลลี , พลเอกจิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และนายแกรี โคห์น อดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว
เนื้อหาสะท้อนว่าตอนนี้คณะทำงานของทรัมป์กำลัง “ก่อกบฏในการบริหาร” และมีปัญหาความขัดแย้งภายใน