ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในวันอังคารว่า ตนยังไม่พอใจกับข้อตกลงที่สมาชิกรัฐสภาจากทั้งสองพรรคเห็นพ้องกันเรื่องมาตรการสร้างความปลอดภัยตามแนวพรมแดน แต่ก็ระบุว่าไม่น่าจะมีการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลอีกครั้งหลังกำหนดเส้นตายวันศุกร์นี้
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวต่อคณะรัฐมนตรีระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวในวันอังคารว่า “ตนยังไม่พอใจ และยังไม่ตื่นเต้น” กับข้อตกลงฉบับใหม่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยตามแนวพรมแดนที่สมาชิกรัฐสภาจากทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตสามารถตกลงกันได้ และว่า “ข้อตกลงนี้ยังไม่ใช่ทางออก”
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่าตนจะลงนามในข้อตกลงดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ อีกครั้งหลังจากวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเจรจาเพื่อจัดทำงบประมาณฉบับใหม่
ปธน.ทรัมป์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีการปิดทำการรัฐบาลรอบใหม่ และตนก็ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นอีก
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ ได้เรียกร้องงบประมาณ 5,700 ล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปใช้สร้างกำแพงกั้นชายแดนติดกับเม็กซิโก เพื่อป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมือง แต่พรรคเดโมแครตต่อต้านข้อเสนอนี้โดยบอกว่าไร้ประโยชน์ ซึ่งความขัดแย้งในเรื่องนี้ได้นำไปสู่การปิดทำการรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเวลานาน 35 วัน จนถึงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา
สำหรับข้อตกลงที่ทั้งสองพรรคสามารถตกลงกันได้ครั้งล่าสุด มีการจัดสรรงบประมาณ 1,375 ล้านดอลลาร์สำหรับสร้าง “สิ่งกีดขวางตามแนวพรมแดน” ขึ้นมาใหม่เป็นระยะทางราว 88 กม. ซึ่งลดลงเหลือเพียง 1 ใน 4 ของงบประมาณที่ ปธน.ทรัมป์ เสนอไปตอนแรก
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ ยืนยันว่า ตนจะพยายามหาเงินสำหรับขยายการก่อสร้างกำแพงดังกล่าวโดยที่ไม่ต้องผ่านการรับรองจากรัฐสภา ซึ่งอาจหมายถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อดึงงบประมาณทางทหารมาใช้ในการก่อสร้างกำแพง และผู้นำสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่า ขณะนี้ได้มีการก่อสร้างและต่อเติมกำแพงบางส่วนไปแล้ว
เมื่อวานนี้หลังจากที่ทั้งสองพรรคสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ส.ว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้กล่าวเน้นย้ำว่า ปธน.ทรัมป์ จำเป็นต้องลงนามในข้อตกลงนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ทุกอย่างที่ต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ รอบใหม่
ทางด้าน ส.ว.มิทช์ แม็คคอนแนลล์ ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า ตนกำลังตรวจสอบข้อตกลงที่ว่านี้อย่างละเอียด และหวังว่าวุฒิสภาสหรัฐฯ จะลงมติรับรองได้ทันกำหนดเส้นตายวันศุกร์นี้
ส่วน ส.ว.คริส แวน ฮอลเล่น จากพรรคเดโมแครต เตือนว่า หาก ปธน.ทรัมป์ ตัดสินใจลงนามในร่างข้อตกลงนี้แล้วหันไปใช้วิธีจัดสรรงบประมาณจากทางอื่นมาใช้สร้างกำแพง จะถือเป็นการละเมิดกระบวนการในรัฐสภา และขัดกับรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ถึงกระนั้น การที่ทั้งสองพรรคสามารถทำให้เกิดข้อตกลงนี้ได้ถือเป็นเรื่องดี ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ต้องถูกปิดอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุน ปธน.ทรัมป์ บางคน ระบุว่าข้อตกลงนี้เป็น “ข้อตกลงขยะ” ที่เพิกเฉยต่อคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนของสหรัฐฯ