ประธานาธิบดีทรัมป์ หารือกับสมาชิกรัฐสภาเมื่อวันอังคารเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่จะผ่อนบรรเทาปัญหาสำหรับธุรกิจและบุคคลต่าง ๆ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของโคโรนาไวรัสในขณะนี้
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า นอกจากธุรกิจการบินพาณิชย์และเรือสำราญที่คาดว่าจะได้รับความช่วยเหลือแล้ว ยังมีการพิจารณาจะช่วยเหลืออุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันในสหรัฐ ซึ่งสกัดพลังงานจากน้ำมันหิน หรือที่เรียกว่า shale oil ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามตัดราคาระหว่างซาอุดิอารเบียกับรัสเซีย และการประกาศเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันเพิ่มของซาอุดิอารเบียด้วย
โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวโทษการที่ดัชนีดาวโจนส์ตกลงถึงกว่า 2,000 จุดเมื่อวันจันทร์ว่า มาจากข้อขัดแย้งระหว่างซาอุดิอารเบียกับรัสเซีย และจากข่าวปลอม
ในส่วนของคนทำงานนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอจะให้ลดการหักภาษีเพื่อจ่ายสมทบกองทุนประกันสังคม และกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลสำหรับคนอเมริกัน หรือที่เรียกว่า Medicare ซึ่งขณะนี้จัดเก็บในอัตรา 7.65% ให้เหลือ 0% จนถึงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาบางคนยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในข้อเสนอนี้ ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งมีบทบาทช่วยสร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจเป็นเงินถึงกว่า 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโคโรนาไวรัส ก็ได้รับความสนใจเพื่อช่วยเหลือเป็นพิเศษด้วย
โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้เครื่องมือทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อรับมือกับผลกระทบจากโคโรนาไวรัส และจะมีการประชุมเป็นพิเศษกับผู้บริหารของธนาคารพาณิชย์ในสัปดาห์นี้ด้วย โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาฟื้นตัวได้เป็นอย่างดีในอีกหนึ่งปีต่อจากนี้
แต่หัวหน้าฝ่ายนโยบายของหอการค้าอเมริกันชี้ว่า ปัญหาในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องสภาพคล่องในตลาด แต่ควรเป็นเรื่องการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น คนทำงานที่ต้องถูกพักงานเนื่องจากธุรกิจชะลอตัว โดยความช่วยเหลือดังกล่าวอาจเป็นในรูปของการให้เงินสนับสนุนขณะที่ตกงาน เป็นต้น
ในส่วนของพรรคเดโมแครตเองนั้นก็กำลังพยายามผลักดันมาตรการช่วยเหลือสำหรับคนทำงาน ซึ่งได้รับผลกระทบจากธุรกิจที่ชะลอตัวเช่นกัน ในรูปของสิทธิการลาป่วยโดยไม่ถูกหักเงินเดือน การประกันการว่างงาน และสิทธิในการเบิกค่ารักษาพยาบาลคืนจากการรักษาอาการเจ็บป่วยเนื่องจากโคโรนาไวรัส เป็นต้น
และในวันนี้ส.ส. แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า ลักษณะการรับมือเพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโคโรนาไวรัสจากประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้เกิดความไม่แน่นอนและความไม่มั่นใจในตลาดทุน และกล่าวย้ำว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นของสหรัฐขณะนี้ เป็นเครื่องสะท้อนถึงการขาดความเชื่อมั่น
ทั้งยังชี้ด้วยว่า แทนที่จะกล่าวโทษผู้อื่นหรือสาเหตุอื่น ๆ ท่าทีและข่าวสารต่าง ๆ ที่ออกมาจากทำเนียบขาว ควรจะสอดคล้องและเป็นไปในทางเดียวกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของสหรัฐออกคำเตือน เพื่อช่วยให้การทำงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างประสานและสอดคล้องกันโดยแท้จริง
