เมื่อวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ความพยายามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตที่จะถอดถอนเขาในช่วงไม่กี่วันก่อนจะหมดวาระลงนั้นเป็น “เรื่องตลกสิ้นดี”
ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาหลายพันคนเมื่อวันพุธที่แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ในวันเกิดเหตุ ปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเขาที่ชุมนุมบริเวณทำเนียบขาวให้ “ต่อสู้” กับบรรดาส.ส. และส.ว. ที่กำลังรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคาร ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า “มีการวิเคราะห์แล้ว และผู้คนเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดไปนั้นเหมาะสมอย่างแน่นอน”
ส.ส. และ ส.ว. ดำเนินการรับรองชัยชนะของไบเดนได้ต่อ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ที่อาคารรัฐสภาได้แล้ว โดย ว่าที่ปธน.ไบเดนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้วาระ 4 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศของปธน.ทรัมป์ สิ้นสุดลงทันที
ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะเดินทางไปยังชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ทางตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อตรวจชมกำแพงที่รัฐบาลของเขาสร้างเพื่อสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ปธน.ทรัมป์เห็นว่าเป็น “ผลงานชิ้นโบว์แดง” ของเขาในฐานะประธานาธิบดี
ปธน.ทรัมป์ระบุว่า ความพยายามถอดถอนเขาเป็น “การล่าแม่มดอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง” โดยเป็นการอ้างอิงถึงกระบวนการสืบสวนที่พุ่งเป้ามายังเขาก่อนหน้านี้ ทั้งการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียเมื่อปีค.ศ. 2016 และความพยายามถอดถอนเขาเมื่อปีค.ศ. 2019 หลังเขาขอให้ยูเครนช่วยขุดคุ้ยข้อมูลของอดีตรองปธน.ไบเดนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติประกาศให้ปธน.ทรัมป์พ้นผิดทุกญัตติถอดถอน
ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันระบุด้วยว่า เขาไม่ต้องการเห็นความรุนแรงขึ้นอีก ในขณะที่ ว่าที่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง แต่ระบุว่า ความพยายามถอดถอนเขาโดยสภาล่าง ซึ่งพรรคเดโมแครตคุมเสียงข้างมากอยู่ “ทำให้(ตน)โกรธอย่างมาก”
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีกำหนดลงคะแนนเสียงในวันอังคารต่อมติเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และคณะรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญปลดผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุว่า ไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
รายงานข่าวคาดว่า สภาล่างจะลงคะแนนเห็นชอบให้ผ่านมติดังกล่าว โดยหากผ่านขั้นตอนนี้แล้ว รองปธน.เพนซ์ จะมีเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อตอบสนองต่อมตินี้ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่แสดงท่าทีสนับสนุนให้ดำเนินการปลดนี้ และหากรองปธน.เพนซ์ไม่เห็นชอบด้วย สภาผู้แทนราษฎรจะลงคะแนนเสียงในวันพุธสำหรับมติการถอดถอนต่อไป
นอกจากรองปธน.เพนซ์แล้ว ไม่มีคณะรัฐมนตรีคนใดที่มีท่าทีสนับสนุนการปลดปธน. ทรัมป์โดยใช้อำนาจตามบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับที่ 25 ที่ให้อำนาจรองประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่ ประกาศให้ประธานาธิบดี “ไร้ความสามารถในการใช้อำนาจและปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งได้”
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน. ทรัมป์ พบรอง ปธน. เพนซ์ ที่ทำเนียบขาว โดยเป็นการพบปะกันครั้งแรกนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่พอใจที่รองปธน.เพนซ์ไม่ยอมปฏิเสธผลการลงคะแนนของคณะผู้แทนเลือกตั้งจากหลายรัฐ ให้ว่าที่ปธน.ไบเดน ชนะการเลือกตั้งแบบฉิวเฉียด
เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลรายหนึ่ง ระบุว่า ทั้งปธน.ทรัมป์และรองปธน.เพนซ์ “ย้ำว่า ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายและบุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้เป็นตัวแทนของการเคลื่อนไหว America First ที่สนับสนุนโดยชาวอเมริกัน 75 ล้านคน (ที่ลงคะแนนเสียงใหปธน.ทรัมป์)” และทั้งสองจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง
แม้ปธน.ทรัมป์จะหมดวาระลงในตอนเที่ยงของวันที่ 20 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น แต่มติยื่นขอถอดถอนทรัมป์ความยาวสี่หน้าระบุว่า ทรัมป์ “แสดงให้เห็นว่า เขาจะยังคงเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ หากยังคงดำรงตำแหน่งต่อไป และยังแสดงท่าทีที่ขัดต่อการปกครองเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ และหลักนิติธรรมเป็นอย่างยิ่ง”
มติยื่นถอดถอนปธน.ทรัมป์ นั้นอ้างถึง ข้อกล่าวหาขอผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่า เขาถูกโกงเลือกตั้งและถูกโกงการนับคะแนน การที่เขากดดันให้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งรัฐจอร์เจีย “ค้นหา” บัตรเลือกตั้งอีกกว่า 11,000 ใบเพื่อเอาชนะไบเดน และคำประกาศของเขาต่อกลุ่มผู้สนับสนุนหลายพันคนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่เรียกร้องให้พวกเขามุ่งหน้าไปยังอาคารัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้ ส.ส. และ ส.ว. พลิกผลการเลือกตั้ง
ส.ส. พรรคเดโมแครต 218 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนเสียงข้างมากในสภาล่างที่มีสมาชิก 435 คน ลงนามในมติดังกล่าว โดยไม่นับส.ส. พรรคริพับลิกัทั้งที่ลงคะแนนเสียงเห็นหรือค้านมติถอดถอน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสภาล่างจะส่งมติดังกล่าวให้วุฒิสภาทำการสอบสวนผู้นำสหรัฐฯ ทันทีหรือไม่ เนื่องจากเขาจะหมดวาระดำรงตำแหน่งในสัปดาห์หน้าแล้ว
ทางด้านว่าที่ปธน.ไบเดนระบุว่า เขา “คาดหวัง” ว่า วุฒิสภาจะดำเนินการสอบสวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์ และรับรองการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีของเขาไปพร้อมกันได้ หลังเขาเข้ารับตำแหน่งแล้ว พร้อมๆ กับอนุมัติงบประมาณเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19
นอกจากนั้น ว่าที่ปธน.ไบเดนกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมปลุกปั่น คุกคามชีวิตผู้อื่น ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ และสร้างความเสียหาย จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง
ว่าที่ปธน. สหรัฐฯ ยังยืนยันจะทำพิธีสาบานตนที่ “ภายนอกอาคาร” หรือบริเวณบันไดทางตะวันตกของคารรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ผู้ประท้วงบุกเข้าอาคารเมื่อวันพุธที่แล้ว
ทั้งนี้ แม้ปธน.ทรัมป์จะออกจากตำแหน่งไปแล้ว หากวุฒิสภามีมติถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งหลังหมดวาระ เขาจะไม่สามารถกลับมารับตำแหน่งในรัฐบาลกลางได้อีกต่อไป
ส.ส. ทอม รีด จากพรรคริพับลิกัน ระบุในบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า เขาจะร่วมเสนอมติไม่ไว้วางใจ ปธน.ทรัมป์ในวันอังคารนี้ ร่วมกับส.ส. จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นอีกทางเลือกนอกจาก “การถอดถอนที่เร่งรีบ” โดยเขาระบุว่า หากมีการ ”ตัดสินใจผิด” ต่อวิธีที่ให้ปธน.ทรัมป์รับผิดชอบ อาจเป็นการทำลายระบบยุติธรรม ทำให้การแบ่งแยกรุนแรงขึ้น และไม่สามารถบรรลุอะไรได้
ทั้งนี้ หาก ปธน.ทรัมป์ถูกถอดถอนอีกครั้ง เขาจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์ 245 ปีของสหรัฐฯ ที่ถูกถอดถอนสองครั้ง