ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘ทรัมป์’ ลั่น ความพยายามถอดถอนจากตำแหน่งปธน. ‘ตลกสิ้นดี’ 


President Donald Trump speaks with reporters before boarding Air Force One Jan. 12, 2021, at Andrews Air Force Base, Maryland, to travel to Texas.
President Donald Trump speaks with reporters before boarding Air Force One Jan. 12, 2021, at Andrews Air Force Base, Maryland, to travel to Texas.

เมื่อวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า ความพยายามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตที่จะถอดถอนเขาในช่วงไม่กี่วันก่อนจะหมดวาระลงนั้นเป็น “เรื่องตลกสิ้นดี”

ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเป็นครั้งแรกหลังเกิดเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาหลายพันคนเมื่อวันพุธที่แล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

ในวันเกิดเหตุ ปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนของเขาที่ชุมนุมบริเวณทำเนียบขาวให้ “ต่อสู้” กับบรรดาส.ส. และส.ว. ที่กำลังรับรองชัยชนะของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคาร ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า “มีการวิเคราะห์แล้ว และผู้คนเห็นว่าสิ่งที่ผมพูดไปนั้นเหมาะสมอย่างแน่นอน”

ส.ส. และ ส.ว. ดำเนินการรับรองชัยชนะของไบเดนได้ต่อ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ที่อาคารรัฐสภาได้แล้ว โดย ว่าที่ปธน.ไบเดนจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้วาระ 4 ปีของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศของปธน.ทรัมป์ สิ้นสุดลงทันที

Trump Impeach protest
Trump Impeach protest

ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะเดินทางไปยังชายแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโก ทางตะวันตกเฉียงใต้ เพื่อตรวจชมกำแพงที่รัฐบาลของเขาสร้างเพื่อสกัดกั้นผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องที่ปธน.ทรัมป์เห็นว่าเป็น “ผลงานชิ้นโบว์แดง” ของเขาในฐานะประธานาธิบดี

ปธน.ทรัมป์ระบุว่า ความพยายามถอดถอนเขาเป็น “การล่าแม่มดอย่างต่อเนื่องครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง” โดยเป็นการอ้างอิงถึงกระบวนการสืบสวนที่พุ่งเป้ามายังเขาก่อนหน้านี้ ทั้งการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียเมื่อปีค.ศ. 2016 และความพยายามถอดถอนเขาเมื่อปีค.ศ. 2019 หลังเขาขอให้ยูเครนช่วยขุดคุ้ยข้อมูลของอดีตรองปธน.ไบเดนในช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติประกาศให้ปธน.ทรัมป์พ้นผิดทุกญัตติถอดถอน

U.S. President Donald Trump speaks to the press as he departs the White House on travel to visit the U.S.-Mexico border Wall in Texas, in Washington, U.S., January 12, 2021. REUTERS/Kevin Lamarque
U.S. President Donald Trump speaks to the press as he departs the White House on travel to visit the U.S.-Mexico border Wall in Texas, in Washington, U.S., January 12, 2021. REUTERS/Kevin Lamarque

ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันระบุด้วยว่า เขาไม่ต้องการเห็นความรุนแรงขึ้นอีก ในขณะที่ ว่าที่ปธน.ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง แต่ระบุว่า ความพยายามถอดถอนเขาโดยสภาล่าง ซึ่งพรรคเดโมแครตคุมเสียงข้างมากอยู่ “ทำให้(ตน)โกรธอย่างมาก”

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีกำหนดลงคะแนนเสียงในวันอังคารต่อมติเรียกร้องให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ และคณะรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญปลดผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุว่า ไม่เหมาะสมต่อการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

รายงานข่าวคาดว่า สภาล่างจะลงคะแนนเห็นชอบให้ผ่านมติดังกล่าว โดยหากผ่านขั้นตอนนี้แล้ว รองปธน.เพนซ์ จะมีเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อตอบสนองต่อมตินี้ อย่างไรก็ตาม เขายังไม่แสดงท่าทีสนับสนุนให้ดำเนินการปลดนี้ และหากรองปธน.เพนซ์ไม่เห็นชอบด้วย สภาผู้แทนราษฎรจะลงคะแนนเสียงในวันพุธสำหรับมติการถอดถอนต่อไป

นอกจากรองปธน.เพนซ์แล้ว ไม่มีคณะรัฐมนตรีคนใดที่มีท่าทีสนับสนุนการปลดปธน. ทรัมป์โดยใช้อำนาจตามบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ฉบับที่ 25 ที่ให้อำนาจรองประธานาธิบดีและคณะรัฐมนตรีส่วนใหญ่ ประกาศให้ประธานาธิบดี “ไร้ความสามารถในการใช้อำนาจและปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งได้”

Members of the National Guard arrive to the U.S. Capitol days after supporters of U.S. President Donald Trump stormed the Capitol in Washington, U.S. January 11, 2021. REUTERS/Erin Scott
Members of the National Guard arrive to the U.S. Capitol days after supporters of U.S. President Donald Trump stormed the Capitol in Washington, U.S. January 11, 2021. REUTERS/Erin Scott


เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน. ทรัมป์ พบรอง ปธน. เพนซ์ ที่ทำเนียบขาว โดยเป็นการพบปะกันครั้งแรกนับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์แสดงความไม่พอใจที่รองปธน.เพนซ์ไม่ยอมปฏิเสธผลการลงคะแนนของคณะผู้แทนเลือกตั้งจากหลายรัฐ ให้ว่าที่ปธน.ไบเดน ชนะการเลือกตั้งแบบฉิวเฉียด

เจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลรายหนึ่ง ระบุว่า ทั้งปธน.ทรัมป์และรองปธน.เพนซ์ “ย้ำว่า ผู้ฝ่าฝืนกฎหมายและบุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ได้เป็นตัวแทนของการเคลื่อนไหว America First ที่สนับสนุนโดยชาวอเมริกัน 75 ล้านคน (ที่ลงคะแนนเสียงใหปธน.ทรัมป์)” และทั้งสองจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะหมดวาระดำรงตำแหน่ง

แม้ปธน.ทรัมป์จะหมดวาระลงในตอนเที่ยงของวันที่ 20 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น แต่มติยื่นขอถอดถอนทรัมป์ความยาวสี่หน้าระบุว่า ทรัมป์ “แสดงให้เห็นว่า เขาจะยังคงเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ หากยังคงดำรงตำแหน่งต่อไป และยังแสดงท่าทีที่ขัดต่อการปกครองเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ และหลักนิติธรรมเป็นอย่างยิ่ง”

มติยื่นถอดถอนปธน.ทรัมป์ นั้นอ้างถึง ข้อกล่าวหาขอผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่า เขาถูกโกงเลือกตั้งและถูกโกงการนับคะแนน การที่เขากดดันให้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งรัฐจอร์เจีย “ค้นหา” บัตรเลือกตั้งอีกกว่า 11,000 ใบเพื่อเอาชนะไบเดน และคำประกาศของเขาต่อกลุ่มผู้สนับสนุนหลายพันคนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ที่เรียกร้องให้พวกเขามุ่งหน้าไปยังอาคารัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้ ส.ส. และ ส.ว. พลิกผลการเลือกตั้ง

ส.ส. พรรคเดโมแครต 218 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนเสียงข้างมากในสภาล่างที่มีสมาชิก 435 คน ลงนามในมติดังกล่าว โดยไม่นับส.ส. พรรคริพับลิกัทั้งที่ลงคะแนนเสียงเห็นหรือค้านมติถอดถอน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสภาล่างจะส่งมติดังกล่าวให้วุฒิสภาทำการสอบสวนผู้นำสหรัฐฯ ทันทีหรือไม่ เนื่องจากเขาจะหมดวาระดำรงตำแหน่งในสัปดาห์หน้าแล้ว

ทางด้านว่าที่ปธน.ไบเดนระบุว่า เขา “คาดหวัง” ว่า วุฒิสภาจะดำเนินการสอบสวนเพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์ และรับรองการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีของเขาไปพร้อมกันได้ หลังเขาเข้ารับตำแหน่งแล้ว พร้อมๆ กับอนุมัติงบประมาณเพื่อเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19

นอกจากนั้น ว่าที่ปธน.ไบเดนกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมปลุกปั่น คุกคามชีวิตผู้อื่น ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ และสร้างความเสียหาย จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง

ว่าที่ปธน. สหรัฐฯ ยังยืนยันจะทำพิธีสาบานตนที่ “ภายนอกอาคาร” หรือบริเวณบันไดทางตะวันตกของคารรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่ผู้ประท้วงบุกเข้าอาคารเมื่อวันพุธที่แล้ว

ทั้งนี้ แม้ปธน.ทรัมป์จะออกจากตำแหน่งไปแล้ว หากวุฒิสภามีมติถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งหลังหมดวาระ เขาจะไม่สามารถกลับมารับตำแหน่งในรัฐบาลกลางได้อีกต่อไป

ส.ส. ทอม รีด จากพรรคริพับลิกัน ระบุในบทความที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า เขาจะร่วมเสนอมติไม่ไว้วางใจ ปธน.ทรัมป์ในวันอังคารนี้ ร่วมกับส.ส. จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นอีกทางเลือกนอกจาก “การถอดถอนที่เร่งรีบ” โดยเขาระบุว่า หากมีการ ”ตัดสินใจผิด” ต่อวิธีที่ให้ปธน.ทรัมป์รับผิดชอบ อาจเป็นการทำลายระบบยุติธรรม ทำให้การแบ่งแยกรุนแรงขึ้น และไม่สามารถบรรลุอะไรได้

ทั้งนี้ หาก ปธน.ทรัมป์ถูกถอดถอนอีกครั้ง เขาจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์ 245 ปีของสหรัฐฯ ที่ถูกถอดถอนสองครั้ง

XS
SM
MD
LG