ส.ส. พรรคเดโมเเครต ดำเนินการเสนอญัตติในวันจันทร์เพื่อให้สภาพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่ง ส.ส. เเนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ใช้การเดินเรื่องถอดถอน เพื่อกดดันให้คณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้สิทธิตามบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯฉบับที่ 25 เพื่อถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่ง
ในจดหมายถึงสมาชิกพรรคเดโมแครต ส.ส. เพโลซีระบุว่า หากรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ไม่ตอบมติดังกล่าวภายใน 24 ชั่วโมง สภาผู้แทนราษฎรจะเดินหน้ากระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ต่อไป
เธอยังระบุในจดหมายด้วยว่า สภาล่างจะเร่งดำเนินการเนื่องจากผู้นำสหรัฐฯ “เป็นภัยที่ใกล้เข้ามา” ต่อรัฐธรรมนูญและต่อประชาธิปไตยของสหรัฐฯ และการโจมตีประชาธิปไตยที่เขาเป็นต้นเหตุก็ยังคงดำเนินมาเรื่อยๆ จนถึงขณะนี้
ทั้งนี้ มีความพยายามถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่ง แม้ว่าเขาจะเหลือเวลาดำรงตำแหน่งอีกเพียงไม่กี่วัน จากกระแสเรียกร้องให้เขารับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตห้าคนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทางด้านว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ไม่แสดงความเห็นต่อประเด็นถอดถอนผู้สำสหรัฐฯ คนปัจจุบันโดยตรง อย่างไรก็ตาม เขาทวีตข้อความเมื่อวันอาทิตย์ว่า “ในอีก 10 วัน เราจะเดินหน้าและสร้างใหม่ไปด้วยกัน”
ส.ส.จิม ไคลเบิร์น จากรัฐเซาธ์แคโรไลนา สังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวกับรายการข่าว Fox News Sunday ว่า สภาล่างอาจลงคะแนนเสียงถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ได้ภายในไม่กี่วัน แม้ว่าเขาจะสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่งในสัปดาห์หน้าพร้อมกับการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของไบเดนและว่าที่ประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ก็ตาม
เนื่องจากทรัมป์ใกล้หมดวาระดำรงตำแหน่งแล้ว จึงมีความเป็นไปได้ต่ำที่วุฒิสภาจะสอบสวนวาระการถอดถอนก่อนที่เขาจะหมดวาระลง อย่างไรก็ตาม สภาสูงสามารถดำเนินการสอบสวนต่อได้แม้ทรัมป์จะหมดวาระลงแล้ว และหากเขาถูกลงมติถอดถอน เขาจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งในรัฐบาลกลางได้อีก
ส.ส.อิลฮาน โอมาร์ จากรัฐมินนิโซตา พรรคเดโมแครต ระบุว่า เธอจะยื่นเสนอสองประเด็นเพื่อถอดถอนทรัมป์ โดยประเด็นแรกจะเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ โดยกดดันให้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งในรัฐจอร์เจียพลิกผลการเลือกตั้ง และประเด็นปลุกปั่นความรุนแรงโดย “กำกับความพยายามทำรัฐประหาร”จากเหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ
ทั้งประธานาธิบดีทรัมป์และทำเนียบขาวยังคงนิ่งเงียบต่อกระแสผลักดันการถอดถอนนี้ โดยผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดเดินทางไปรัฐเท็กซัสในวันอังคาร เพื่อเน้นย้ำความสำเร็จของรัฐบาลของเขาในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ และเม็กซิโก
ส.ว. รอย บลันท์ จากรัฐมิสซูรี สังกัดพรรคริพับลิกัน และประธานคณะกรรมาธิการพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของไบเดน กล่างกับสถานีโทรทัศน์ CBS News ว่า การถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดวาระลงอย่างแน่นอน
ส.ว. ลิซา เมอร์โควสกี และ ส.ว. แพท ทูมีย์ จากพรรคริพับลิกัน เรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯ ลาออกโดยสมัครใจ โดยทูมีย์กล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า วิธีนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและสามารถทำได้โดยทันที แม้จะมีความเป็นไปได้ต่ำก็ตามเนื่องจากเขาเห็นว่า พฤติกรรมของทรัมป์ทั้งช่วงก่อนและหลังเลือกตั้งไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าใดนัก
ท้ังนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์เคยกล่าวกับที่ปรึกษาของเขาว่า เขาไม่มีแผนจะลาออกจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ