การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมเเครตและรีพับลิกันจบลงเป็นที่เรียบร้อย และตัวแทนของทั้งสองพรรคที่ไ้ด้รับการเสนอชื่อลงเลือกตั้งประธานาธิบดี เดือนพฤศจิกายน ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยรับหน้าที่สำคัญเรียกคะเเนนสนับสนุน
เมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวสุนทรพจน์ยาวนาน 70 นาที รับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง
หากเทียบกับการปราศรัย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดย อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ตอบรับการเป็นตัวแทนของพรรคเดโมเเครตในการลงเลือกตั้งเเข่งกับทรัมป์ งานของพรรครีพับลิกันในคืนสุดท้าย มีความเเตกต่างกัน
ฝ่ายเดโมเเครต ไม่มีการเปิดสถานที่ให้คนจำนวนมากเข้าร่วม ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ จัดงานที่ทำเนียบขาวพร้อมผู้ฟังกว่า 1,000 คน ซึ่งรวมถึงนักการเมืองรีพับลิกัน รัฐมนตรีหลายกระทรวง และสมาชิกครอบครัวทรัมป์
ชมร่วมงานฟังสุนทรพจน์ ขณะนั่งเก้าอี้ในสนามหญ้าติดๆกัน โดยขัดกับคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเรื่องการป้องกันการระบาดของโคโรนาไวรัส นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนน้อยที่สวมหน้ากากระหว่างฟังผู้นำสหรัฐฯปราศรัย
โจ ไบเดน ยังได้ตำหนิการใช้สถานที่ในทำเนียบขาว ซึ่งเป็นพื้นที่ของรัฐ จัดงานทางการเมืองโดยพรรครีพับลิกันในครั้งนี้
ในการปราศรัยของโดนัลด์ ทรัมป์ เขาใช้เวลาส่วนหนึ่งโจมตี ฝ่ายตรงข้ามจากพรรคเดโมเเครต ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า โจ ไบเดนเตรียมการที่จะทำลายประเทศด้วยแนวทางซ้ายจัดและอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายไร้กฎระเบียบ
ผู้นำสหรัฐฯบอกด้วยว่า โจ ไบเดน จะทำลายโอกาสจ้างงานในสหรัฐฯ และทำให้ความยิ่งใหญ่ของอเมริกาเสื่อมถอยลง
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ขณะที่โจ ไบเดน รับเงินบริจาคและมีท่าทีที่อบอุ่นกับคนทำงานโรงงาน ตลอด 47 ปีบนสังเวียนการเมืองของเขา แต่เเท้จริงแล้ว อดีตรองประธานาธิบดีผู้นี้ สนับสนุนให้เกิดการย้ายการจ้างงานจากสหรัฐฯไปยังจีนและประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจเช็คความถูกต้องของข้อมูล PolitiFact ของสถานบันด้านสื่อสารมวลชน Poynter Institute กล่าวว่า การโจมตีโจ ไบเด็นในบางประเด็นโดยโดนัลด์ ทรัมป์ คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ทรัมป์และไบเดน มีกำหนดขึ้นโต้วาทีกันครั้งแรกในฐานะคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี วันที่ 29 กันยายนนี้ ที่เมืองคลีฟเเลนด์ รัฐโอไฮโอ
ขณะนี้ผลการสำรวจความนิยมชี้ว่า โจ ไบเดน มีคะเเนนนำหน้าโดนัลด์ ทรัมป์ เฉลี่ย ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์ ตามการคำนวณของเว็บไซต์ Real Clear Politics อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบของเขาลดลงเล็กน้อยในรัฐที่มีคะเเนนคู่คี่กับทรัมป์ ซึ่งรัฐเหล่านี้ อาจเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้งในที่ 3 พฤศจิกายน นี้
ในคำปราศรัยเมื่อคืนนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวถึงการดำเนินนโยบายที่กดดันจีนอย่างเเข็งขัน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและตำหนิจีนว่าเป็นต้นเหตุของการเเพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ 5 ล้าน 8 แสนคน และโรคดังกล่าวคร่าชีวิตคนในอเมริกาไปแล้ว กว่า 180,000 ราย
ในระยะเเรกของการบริหารประเทศ โดนัลด์ ทรัมป์และ ประธานาธิบดีจีน นายสี จินผิง มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และมีการเจรจาการค้ากัน นอกจากนั้นเมื่อเกิดการระบาดของโคโรนาไวรัส ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้เคยชม ประธานาธิบดีสีในการบริหารจัดการกับการระบาด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผู้นำอเมริกากล่าวโทษจีนในเรื่องการค้าและการสาธารณสุขที่เกี่ยวกับโควิด-19
ทรัมป์ กล่าวว่า โจ ไบเดนจะอ่อนข้อให้กับจีน ซึ่งต่างกับตนที่จะเอาเรื่องกับจีน และจะไม่พึ่งพาจีน
ก่อนการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ของโดนัลด์ ทรัมป์ พรรคเดโมเเครตโจมตีผู้นำสหรัฐฯโดยระบุว่าเขา เป็นประธานาธิบดีอเมริกันที่ผ่อนปรนต่อจีนมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ในแถลงการณ์ คณะหาเสียงของโจ ไบเดนกล่าวว่า ทรัมป์ล้มเหลวครั้งเเล้วครั้งเล่า ในความสัมพันธ์กับจีน ที่จะยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน
พรรคเดโมเเครตกล่าวว่า “เมื่อเกิดมีการระบาดของโคโรนาไวรัสขึ้น ทรัมป์ช่วยเเพร่คำโกหกของสี จินผิง และสงครามการค้าของเขากับจีนสร้างความเสียหายต่อเกษตรกร ธุรกิจ ผู้บริโภคและคนงานอเมริกัน”
ในช่วงเดียวกับการจัดงานประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน เกิดการประท้วงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน หลังจากที่ ชายอเมริกันผิวดำที่ชื่อ เจคอบ เบลค ถูกตำรวจยิงบาดเจ็บหนักเมื่อวันอาทิตย์
ท่ามกลางความปั่นป่วนในเมืองที่เกิดขึ้นตามมา อาคารบางแห่งถูกวางเพลิง นอกจากนี้ ตำรวจจับกุมตัวชายวัย 17 ปีจากรัฐอิลลินิยส์ ซึ่งเป็นรัฐติดกับวิสคอนซิน ในข้อหายิงสังหารผู้ประท้วงสองคน และทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกหนึ่งราย
ก่อนหน้านี้ รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ตลอดจนผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่งานประชุมใหญ่ของรีพับลิกันหลายคน ย้ำถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลปัจจุบันว่า เป็นผู้สนับสนุนงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเเข็งขัน
และในคืนวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีทรัมป์ มิได้พูดถึง เจคอบ เบลค แต่ได้ ยำ้ถึงบทบาทประธานาธิบดี ที่เป็นผู้รักษากฎหมาย เขายังได้ประณาม ผู้ก่อความวุ่นวาย และคนที่เข้าขโมยของตามร้านค้า ก่อนหน้านี้ ในเมืองใหญ่หลายแห่งที่อยู่ในความดูแลของนักการเมืองเดโมเเครต ท่ามกลางกระเเสเรียกร้องความยุติธรรมต่อคนผิวสี ซึ่งมีชนวนเหตุจากการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชาวผิวดำระหว่างการถูกจับกุมตัวของตำรวจเมืองมินนิอาโพลิส รัฐมินเนสโซตา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม