เมื่อช่วงเช้าวันพุธตามเวลาในสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดี เพื่อเดินทางไปยังรัฐฟลอริดาในวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งสี่ปีของเขา
ทรัมป์กล่าวขณะเดินทางออกจากทำเนียบขาวว่า การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีถือเป็น “เกียรติประวัติแห่งชีวิต”
ทรัมป์ไม่เข้าร่วมพิธีปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน แต่ได้ทำพิธีส่งท้ายบนพรมแดง พร้อมวงดนตรีกองทัพ การยิงสลุต 21 นัด และแขกเหรื่อ ราว 200 คน ที่ฐานทัพอากาศแอนดริวส์ นอกกรุงวอชิงตัน
ทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุนของเขาว่า “เราจะกลับมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง” ในขณะกล่าวสุนทรพจน์ส่งท้ายก่อนขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน
ทรัมป์กล่าวถึงโครงการหลายอย่างที่รัฐบาลของเขาได้ทำ รวมถึงการให้สวัสดิการสาธารณสุขที่ดีขึ้นแก่ทหารผ่านศึก และกฎหมายใหม่ที่ลดภาษีให้ชาวอเมริกันจำนวนมาก โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาหวังว่ารัฐบาลถัดไปจะไม่เพิ่มภาษี “แต่ถ้าพวกเขาเพิ่มภาษี ก็ถือว่าผมบอกคุณแล้วนะ” เรียกเสียงหัวเราะและเสียงปรบมือจากผู้สนับสนุนของเขา
ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลของเขาปูพื้นฐานให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวในช่วงต่อจากนี้ และขอให้รัฐบาลถัดไปประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของโจ ไบเดน แต่อย่างใด
เขากล่าวว่า “คุณจะเห็นเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้น คุณจะจดจำพวกเราเมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น เพราะผมมองเห็นองค์ประกอบของเศรษฐกิจอเมริกาที่กำลังจะพุ่งทะยานขึ้นแล้ว”
ทรัมป์ออกจากทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ถูกถอดถอนสองครั้ง โดยจะมีการสอบสวนโดยวุฒิสภาสหรัฐฯ ถึงข้อหาที่เขาปลุกปั่นกลุ่มผู้สนับสนุนที่บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทรัมป์กล่าวถึงเหตุการณ์บุกอาคารรัฐสภาสั้น ๆ โดยกล่าวว่า ชาวอเมริกัน “รู้สึกหวาดกลัว” ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว และความรุนแรงทางการเมืองเป็นเรื่องที่ “ไม่มีทางรับได้”
ทั้งนี้ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งอภัยโทษและลดโทษให้บุคคลกว่า 140 คน รวมทั้งสตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้าคณะหาเสียงของเขา ก่อนที่เขาจะหมดวาระดำรงตำแหน่งลงในวันพุธ
ทรัมป์ยังยกเลิกคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารที่ออกมาในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่งของเขา โดยคำสั่งดังกล่าวห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเขาล็อบบี้รัฐบาลเป็นเวลาห้าปีหลังออกจากตำแหน่ง รวมถึงห้ามมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่พวกเขาต้องลงทะเบียนเป็นตัวแทนต่างชาติ โดยคำสั่งดังกล่าวเป็นหนึ่งในคำมั่นในช่วงการหาเสียงของทรัมป์ในสมัยแรกว่าจะ “ถ่ายน้ำเสีย”ออกจากการเมืองอเมริกัน หรือนโยบายปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เขารับปากเอาไว้ในตอนนั้น