ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโจมตีอัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ อีกครั้งในวันพฤหัสบดีว่า เป็นอัยการที่สร้างความขัดแย้ง และไม่ควรถูกเลือกให้มาทำหน้าที่สืบสวนกรณีการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่แรก
ปธน.ทรัมป์ ระบุว่า อัยการมุลเลอร์ "ไม่เคยชอบตน" และอ้างว่าตนเองเป็นผู้ที่ไม่ทำตามความปรารถนาของอัยการมุลเลอร์ที่ต้องการกลับมานั่งในตำแหน่ง 'ผู้อำนวยการเอฟบีไอ' อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานหรือหลักฐานที่บ่งชี้ว่า อัยการมุลเลอร์ต้องการกลับมาทำหน้าที่ดังกล่าวจริงดังที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวอ้างหรือไม่
ปธน.ทรัมป์ ยังกล่าวอ้างด้วยว่า อัยการมุลเลอร์ชื่นชอบนายเจมส์ โคมมีย์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอที่ถูกตนไล่ออก และบอกว่า นายโคมมีย์คือ "เพื่อนรัก" ของอัยการมุลเลอร์ และเป็นผู้สนับสนุนนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. 2016
เมื่อวันพุธ อัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ ปรากฎตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกหลังจากมีการเปิดเผยรายงานสรุปการสืบสวนของเขาซึ่งมีความยาว 448 หน้า
อัยการมุลเลอร์อธิบายสาเหตุที่ไม่ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ แม้พบหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าอาจมีการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมจริง โดยระบุว่ากฎระเบียบที่ใช้มาอย่างยาวนานภายในกระทรวงยุติธรรม ระบุไว้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อยู่ในตำแหน่งไม่สามารถถูกฟ้องร้องเพื่อเอาผิดทางกฎหมายได้ และสำนักงานของเขาก็อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ว่านี้
อัยการมุลเลอร์เน้นย้ำว่า การยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่ใช่ทางเลือกที่สำนักงานของเขาสามารถทำได้ ภายใต้นโยบายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม อัยการมุลเลอร์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาทำหน้าที่สืบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 กล่าวว่า แม้จะไม่มีหลักฐานว่าคณะหาเสียงของ ปธน.ทรัมป์ และตัว ปธน.ทรัมป์ เองมีความเกี่ยวข้องในการสมคบคิดกับรัสเซียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง แต่รายงานฉบับนี้ก็มิได้ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ พ้นจากความผิดทั้งหมด
และว่า "หากเรามั่นใจว่า ปธน.ทรัมป์ ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ จริง เราก็ต้องระบุเช่นนั้นไปแล้วในรายงาน"
WATCH: Mueller on indicting a sitting president
ด้าน ปธน.ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดีด้วยว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ให้อำนาจกับประธานาธิบดีอย่างมาก ซึ่งสามารถปกป้องตนจากข้อกล่าวหาทุกอย่าง รวมทั้งข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ตนชนะเลือกตั้งมาด้วยตนเองโดยไม่มีความช่วยเหลือใดๆ จากรัสเซีย และว่า ถ้ารัสเซียจะมีส่วนก็น่าจะเป็นการช่วยฝ่ายตรงข้ามกับตนมากกว่า