อัยการพิเศษ โรเบิร์ต มุลเลอร์ เน้นย้ำในวันพุธว่า การสั่งฟ้องประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรมนั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่สำนักงานของเขาสามารถทำได้ ภายใต้นโยบายของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ
อัยการมุลเลอร์ประกาศการปิดสำนักงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเรื่องการแทรกแซงของรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตรวจสอบข้อกล่าวหาว่า ปธน.ทรัมป์ ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมหรือไม่
ในการปรากฎตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกหลังจากมีการเปิดเผยรายงานสรุปการสืบสวนของเขาซึ่งมีความยาว 448 หน้า อัยการมุลเลอร์อธิบายสาเหตุที่ไม่ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ แม้พบหลักฐานหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าอาจมีการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมจริง โดยระบุว่ากฎระเบียบที่ใช้มาอย่างยาวนานภายในกระทรวงยุติธรรม ระบุไว้ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อยู่ในตำแหน่งไม่สามารถถูกฟ้องร้องเพื่อเอาผิดทางกฎหมายได้ และสำนักงานของเขาก็อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ว่านี้
อย่างไรก็ตาม อัยการมุลเลอร์ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มาทำหน้าที่สืบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 กล่าวว่า แม้จะไม่มีหลักฐานว่าคณะหาเสียงของ ปธน.ทรัมป์ และตัว ปธน.ทรัมป์ เองมีความเกี่ยวข้องในการสมคบคิดกับรัสเซียเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้ง แต่รายงานฉบับนี้ก็มิได้ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ พ้นจากความผิดทั้งหมด
และว่า "หากเรามั่นใจว่า ปธน.ทรัมป์ ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ จริง เราก็ต้องระบุเช่นนั้นไปแล้วในรายงาน"
ทางด้านทำเนียบขาวมีแถลงการณ์ออกมาหลังคำกล่าวของนายมุลลเลอร์ โดยระบุว่า อัยการมุลเลอร์ได้กล่าวอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีอะไรจะเพิ่มเติมในรายงานการสืบสวนดังกล่าว และไม่มีแผนจะขึ้นให้การต่อคณะกรรมาธิการของรัฐสภาสหรัฐฯ เช่นกัน
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความว่า "ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรายงานที่เปิดเผยไปแล้วก่อนหน้านี้ และไม่มีหลักฐานเพียงพอซึ่งหมายความว่าผู้ถูกกล่าวหาคือผู้บริสุทธิ์ ปิดคดีได้แล้ว ขอบคุณ"