ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “มีความกังวลอย่างมาก” เกี่ยวกับการยกระดับของสถานการณ์ด้านการใช้อาวุธต่าง ๆ ในสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี ตามการเปิดเผยของผู้ถูกเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่
ไมเคิล วอลซ์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาคองเกรสตัวแทนรัฐฟลอริดา กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับรายการ “Fox News Sunday” ว่า การตัดสินใจของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในการสกัดการรุกล้ำเข้ามาของทหารราบรัสเซียได้ทำให้การต่อสู้ในภูมิภาคตะวันออกของยูเครนกลายมาเป็นสถานการณ์คล้าย ๆ กับ “สงครามสนามเพลาะในสงครามโลกครั้งที่ 1” แล้ว
วอลซ์กล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าว “จำเป็นต้องอยู่ในกรอบกว้าง ๆ ของการหาทางยุติความขัดแย้งนี้” และว่า “(อาวุธดังกล่าว)คือเครื่องบดเนื้อของผู้คนและบุคลากรที่แนวหน้าไปโดยปริยายแล้ว”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังส่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคลไปยังยูเครนเนื่องจากสภาพความขัดแย้งในภาคตะวันออกของประเทศซึ่งเป็นสนามรบหลักนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป
ลอยด์กล่าวด้วยว่า ทหารราบของรัสเซียคือหน่วยที่นำทีมของกองทัพมอสโกในการรุกคืบเข้ามา และยูเครน “จำเป็นต้องมีสิ่งที่จะมาช่วยชะลอความพยายามที่ว่านี้”
แต่วอลซ์กล่าวว่า ทรัมป์มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์นองเลือดที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็ยอมรับว่า ในภาพกว้างนั้น คำถามสำคัญกว่าก็คือ “เราจะทำให้มีการป้องปรามและนำสันติภาพกลับคืนมาได้อย่างไร”
ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวเสมอว่า ตนจะทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยุติลงก่อนจะเข้าพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า แต่ก็ไม่เคยเปิดเผยว่า จะทำอย่างไรและปฏิเสธที่จะกล่าวในระหว่างการโต้อภิปรายเมื่อเดือนกันยายนว่า ตนนั้นต้องการให้ยูเครนเป็นฝ่ายชนะหรือไม่
ไบเดนเพิ่งให้ไฟเขียวแก่ยูเครนในการใช้ขีปนาวุธที่กรุงวอชิงตันส่งให้และมีสมรรถนะที่จะโจมตีลึกเข้าไปเป็นระยะทางถึง 300 กิโลเมตรในดินแดนของรัสเซียได้ เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารจำนวน 10,000 นายไปช่วยมอสโกรบ
หลังได้รับอนุญาตจากวอชิงตัน ยูเครนยิงขีปนาวุธของอเมริกาเข้าโจมตีคลังอาวุธของรัสเซียในแคว้นบรีแยงสก์ทันที ก่อนที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะสั่งยิงทดสอบจรวดแบบใหม่เข้าไปยังเมืองดนิโปร ทางตะวันออกของยูเครน
ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “การยกระดับ(ของสถานการณ์)ที่ชัดเจน” และว่า “แล้วการยกระดับที่ว่านี่จะไปถึงไหน และเราจะทำให้ทั้งสองฝ่ายยอมลงนั่งที่โต๊ะ” เพื่อเจรจาสันติภาพได้อย่างไร
ส.ส.วอลซ์ที่จะก้าวขึ้นรับตำแหน่งใหม่ได้โดยไม่ต้องได้รับการยืนยันรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ตนได้เข้าประชุมกับเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของปธน.ไบเดนแล้ว พร้อมชี้ว่า ศัตรูของสหรัฐฯ นั้น “คิดผิด” หากจะพยายาม “ชี้นำให้ฝ่ายหนึ่งปะทะกับอีกฝ่าย” ในช่วงที่มีการโอนถ่ายอำนาจระหว่างไบเดนและทรัมป์
วอลซ์แสดงความมั่นใจด้วยว่า ทรัมป์จะสามารถสร้างสันติภาพในพื้นที่ ๆ มีความขัดแย้งอยู่ในตะวันออกกลางที่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลและนักรบกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังอยู่ ทั้งกลุ่มฮามาสในกาซ่าและกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอนด้วย
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น