ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีกำหนดลงมติครั้งประวัติศาสตร์ ขอถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง
ในช่วงบ่ายวันพุธ สภาผู้แทนราษฎรใช้เวลาราว 6 ชั่วโมงในการอภิปรายญัตติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในสองประเด็น คือ ใช้อำนาจในทางที่ผิด และขัดขวางกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา และจะมีการลงมติรับรองการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงหัวค่ำวันพุธ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ ปธน.ทรัมป์ ปราศรัยหาเสียงที่รัฐมิชิแกน
คาดว่าการลงมติจะมีผลรับรองให้ถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ เนื่องจากพรรคเดโมแครตที่ดำเนินกระบวนการไต่สวนขอถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ
หลังจากนั้นวุฒิสภาสหรัฐฯ จะทำหน้าที่ตัดสินโดยพิจารณาว่าจะถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะถูกถอดถอนมีไม่มาก เพราะพรรครีพับลิกันที่เขาสังกัดอยู่คุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ก่อนหน้าการลงมติในสภาล่างในวันพุธ ปธน.ระดมทวีตข้อความวิจารณ์การสอบสวนข้อกล่าวหาที่มีต่อตน พร้อมยืนยันคำเดิมว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด และว่าตนไม่กังวลกับการลงมติในครั้งนี้แต่อย่างใด
ตั้งแต่เดือนกันยายน กระบวนการไต่สวนขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเป็นทางการมุ่งเป้าส่วนใหญ่ไปที่เรื่องที่ทรัมป์ขอให้ประธานาธิบดียูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมือง คืออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเด้น และลูกชาย ฮันเตอร์ ไบเด้น ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานในยูเครน
และเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งจดหมายถึง ส.ส. แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประท้วงเรื่องญัตติขอถอดถอนว่า กระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ เท่ากับความพยายามทำรัฐประหารโดยผิดกฏหมาย
รายละเอียดส่วนหนึ่งของจดหมายความยาว 6 หน้า กล่าวหาพรรคเดโมแครตว่าทำให้เกิดความวิปริต และบิดเบือนความยุติธรรม รวมทั้งใช้อำนาจในทางที่ผิด ในความพยายามถอดถอนตนออกจากตำแหน่ง
หากว่าญัตติขอถอดถอนทรัมป์ ผ่านสภาผู้แทนฯ ในวันนี้ตามคาด โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดีคนที่สามในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน ที่ถูกสภาล่างตั้งข้อหาขอถอดถอน
ในประวัติศาสตร์มีประธานาธิบดีถูกตั้งข้อหาเพื่อถอดถอนในสภาล่างมาแล้วสองครั้ง คืออดีตประธานาธิบดีแอนดรูว์ จอห์นสัน ในช่วงกลางศตวรรษที่19 และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ซึ่งทั้งคู่ถูกสภาล่างที่ทำหน้าที่คล้ายอัยการตั้งข้อหาเพื่อถอดถอน แต่วุฒิสภาซึ่งทำหน้าที่คล้ายศาลลงมติไม่เห็นด้วยกับข้อกล่าวหา
ส่วนผู้นำสหรัฐฯ อีกคนหนึ่งซึ่งถูกกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนเช่นกัน คืออดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน แต่ได้ชิงลาออกจากตำแหน่งก่อนที่กระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์