ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวยกย่องรัฐบาลกรุงปักกิ่งเรื่องการรับมือกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง หนึ่งวันหลังจากที่เหตุการณ์กลุ่มคนใส่หน้ากากบุกทำร้ายผู้ประท้วงหลายคน
ฮ่องกงยังคงเผชิญการประท้วงติดต่อกันนาน 7 สัปดาห์ ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมนับล้านคนเพื่อต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนฉบับใหม่ และเรียกร้องให้ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงลงจากตำแหน่ง จนขณะนี้กลายไปเป็นการประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเพื่อประชาธิปไตย
การประท้วงลุกลามไปเป็นความรุนแรง เมื่อผู้ประท้วงได้บุกโจมตีห้างร้านและอาคารรัฐสภา และมีการปะทะกับตำรวจหลายครั้ง
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวระหว่างพบหารือกับนายกรัฐมนตรีปากีสถาน อิมราน ข่าน ที่ทำเนียบขาว ในวันจันทร์ว่า "ขณะนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมสำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง"
และว่า "ตนคิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฮ่องกงขณะนี้ยังไม่ใช่ความรุนแรง"
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจีนสามารถยุติการประท้วงครั้งนี้ได้หากต้องการ และว่า การประท้วงในฮ่องกงครั้งนี้มีประชาชนเข้าร่วมมากมายอย่างที่ตนไม่เคยเห็นมาก่อน และดำเนินมาเป็นเวลานาน ซึ่งตนหวังว่าประธานาธิบดีสีจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
คำกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ค่อนข้างสร้างความแปลกใจให้กับผู้ติดตามการเมืองโลก เนื่องจากเมื่อปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ เป็นผู้เริ่มต้นสงครามการค้าของจีน ซึ่งความขัดแย้งยังคงไม่ได้รับการแก้ไขจนถึงขณะนี้