ว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เตือนบรรดาบริษัทอเมริกันอีกครั้งว่า หากพวกเขาย้ายโรงงานไปต่างประเทศ อาจต้องถูกเก็บภาษีนำเข้า 35% เมื่อส่งสินค้าหลับมาขายในสหรัฐฯ
ทรัมป์ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่าเขามีนโยบายลดภาษีและยกเลิกกฏเกณฑ์ต่างๆ สำหรับบริษัทในอเมริกา แต่บริษัทใดที่มีแผนจะปลดพนักงานแล้วย้ายโรงงานไปต่างประเทศ เพื่อผลิตสินค้าในต้นทุนต่ำกว่าแล้วส่งสินค้ากลับมาขายในสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูงกว่าเดิมมาก
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 สหรัฐฯ สูญเสียตำแหน่งงานไปแล้ว 5 ล้านตำแหน่ง ส่วนใหญ่เป็นเพราะการย้ายโรงงานไปประเทศอื่นที่ค่าแรงถูกกว่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์กล่าวอ้างความสำเร็จที่สามารถรักษาตำแหน่งงานราว 1,000 ตำแหน่งของบริษัทเครื่องปรับอากาศ Carrier ให้อยู่ในรัฐอินเดียน่าต่อไป แลกกับการให้ผลประโยชน์จูงใจด้านภาษีเป็นมูลค่า 7 ล้านดอลลาร์
แต่นักวิจารณ์บอกว่าข้อตกลงดังกล่าวอาจเป็นผลเสียต่อการจ้างงานในอนาคต เพราะบริษัทอื่นๆ ในสหรัฐฯ อาจใช้วิธีข่มขู่ว่าจะย้ายโรงงานไปต่างประเทศ เพื่อแลกกับการได้รับข้อยกเว้นทางภาษีจากรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เช่นกัน
ขณะเดียวกัน โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ปีหน้า โดยที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในสถานะที่ดีกว่าเมื่อครั้งที่ ปธน.โอบาม่า เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 8 ปีก่อน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ชี้ว่าปัจจุบันตัวเลขอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.6% เทียบกับระดับเกือบ 10% เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3%
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยราว 0.25% ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 1 ปี