ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงดิ่งลงอีกครั้งในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ ตกลงไปเกือบ 3% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลงกว่า 2%
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตตำหนิระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Reserve ว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดหุ้น และปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า นโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed คือต้นตอของปัญหาเศรษฐกิจทั้งหมดในอเมริกา นอกจากนี้ยังกล่าวหานายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าไม่มีความเข้าใจในตลาดหุ้น และเป็นผู้ทำให้ตลาดหุ้นเสียหายด้วยการกำหนดนโยบายดอกเบี้ยผิดๆ
เมื่อวานนี้ มีรายงานว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหารือเรื่องการสั่งปลดประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Fed เพิ่งประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้
ข่าวเรื่องการปลดนายพาวเวลล์ สร้างความกังวลให้กับสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ตลอดจนนักเศรษฐศาสตร์ ผู้บริหารบริษัทในวอลสตรีท และนักลงทุน เนื่องจากเกรงว่าผู้นำฝ่ายบริหารกำลังแทรกแซงการทำงานของระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนเชื่อว่า นักลงทุนจำนวนมากเป็นกังวลเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการทางภาษีกับประเทศคู่ค้าต่างๆ ด้วย รวมทั้งความชะงักงันทางการเมืองในกรุงวอชิงตันที่ทำให้เกิดการปิดการทำงานของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ บางส่วน อยู่ในขณะนี้
ปธน.ทรัมป์ แต่งตั้งนายเจอโรม พาวเวลล์ เป็นประธานคณะผู้ว่าการระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อต้นปีนี้ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี แต่ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธาน Fed จะอยู่ในตำแหน่งจนกว่าจะสมัครใจลาออกเอง
นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่า การปลดนายพาวเวลล์ จะก่อให้เกิดความโกลาหลในตลาดการเงิน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายยังไม่แน่ใจว่า ตามกฎหมายนั้น ปธน.สหรัฐฯ มีอำนาจในการสั่งปลดประธาน Fed หรือไม่