ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัฐบาลอเมริกันลดรับผู้ลี้ภัยเหลือ 15,000 คนต่อปี 


In this April 22, 2020, photo, Afghan refugee Mahmood Amiri carries his daughter, Safa, in West Valley City, Utah. The coronavirus restrictions imposed across the U.S. have affected refugee families in many of the same ways as other Americans, but many of
In this April 22, 2020, photo, Afghan refugee Mahmood Amiri carries his daughter, Safa, in West Valley City, Utah. The coronavirus restrictions imposed across the U.S. have affected refugee families in many of the same ways as other Americans, but many of

รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า จะมีการจำกัดจำนวนผู้ลี้ภัยที่ได้รับอนุญาตให้อพยพเข้าประเทศให้เหลือ 15,000 คนในปีงบประมาณใหม่ ซึ่งเริ่มต้นในวันพฤหัสบดีนี้

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ลดจำนวนผู้ลี้ภัยที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาพำนักในประเทศต่อปีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาดำรงตำแหน่งเมื่อปี ค.ศ. 2017

ในปีงบประมาณ 2020 ที่เพิ่งผ่านไป ทางรัฐบาลกำหนดเพดานรับผู้ลี้ภัยที่ 18,000 คน โดยสหรัฐฯ ได้รับผู้ลี้ภัย 10,892 คนเข้าประเทศก่อนจะระงับไปเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้ลี้ภัยที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่สภาคองเกรสอนุมัติโครงการผู้ลี้ภัยยุคใหม่เมื่อ 40 ปีที่แล้ว โดยในยุคของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา มีการรับผู้ลี้ภัยเข้าประเทศที่ 70,000 – 85,000 คนต่อปี

กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ในปีหน้า “ยืนหยัดความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในโลก ในขณะเดียวกันก็เติมเต็มหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในการปกป้องและรับใช้ชาวอเมริกัน”

คริช วิกนาราจาห์ ประธานของ Lutheran Immigration and Refugee Service ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลสหรัฐฯ มีหน้าที่ช่วยผู้อพยพลงหลักปักฐานในประเทศ ระบุว่า การตัดสินใจลดจำนวนผู้อพยพที่ได้รับอนุญาตให้พำนักในสหรัฐฯเป็น “การละทิ้งหน้าที่ทางคุณธรรมและคุณค่าทุกประการของประเทศเราอย่างสิ้นเชิง”

XS
SM
MD
LG