กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ประมาณว่าคลื่นทะเลและน้ำทะเลตลอดแนวชายฝั่งของประเทศสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 1,420 เทราวัตต์ต่อปี (terawatt-hour) เทียบเท่ากับปริมาณพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์กว่า 330 โรง
แต่คุณ Jose Zayas หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีพลังงานลมและน้ำที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯกล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายอย่างมากที่เทคโนโลยีในปัจจุบันยังมีประสิทธิภาพในการตักตวงประโยชน์จากแหล่งพลังงานสะอาดนี้ได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และถือว่าต่ำเกินไปต่อการลงทุนเพื่อจุดประสงค์ทางการค้า
คุณ Zayas กล่าวว่าทางกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีให้สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมและน้ำให้ได้อย่างน้อยเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ และเขาเชื่อว่าหากทำได้ตามเป้านี้ก็จะช่วยให้คุ้มกับการลงทุนมากขึ้น
เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆทางด้านนี้ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ได้ประกาศให้มีการประกวดในระดับทั่วประเทศที่เรียกว่า the Wave Energy Prize
การพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาเพื่อตักตวงประโยชน์จากพลังงานคลื่นในทะเลย่อมเป็นงานที่ท้าทายอย่างแน่นอน เพราะอุปกรณ์ที่คิดค้นขึ้นจะต้องทนทานต่อสภาพแวดล้อมในทะเล ความแรงของคลื่นและความเค็มของน้ำทะเล
บรรดาผู้จัดการแข่งขันคาดว่า แนวคิดใหม่ๆ ส่วนมากน่าจะมาจากบริษัทพลังงานต่างๆ ตลอดจนสถาบันการศึกษาและการวิจัยต่างๆ คุณ Zayas กล่าวว่าการทดสอบประสิทธิภาพเทคโนโลยีที่เข้าประกวดจะดำเนินการในหลายๆระยะเพื่อคัดกรองผู้เข้าประกวดจากหนึ่งต่อห้าสิบจนกระทั่งเหลือ 10 ทีมสุดท้าย
การทดสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์จำลองจะจัดทำขึ้นที่สระน้ำภายในอาคารขนาดใหญ่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์สร้างคลื่นทะเลเทียม คุณ Zayas ชี้ว่าอุปกรณ์จำลองที่เข้าประกวดไม่จำเป็นต้องผลิตกระเเสไฟฟ้าได้ แต่ต้องพิสูจน์ว่าสามารถตักตวงพลังงานคลื่นทะเลได้ในปริมาณมากเท่าใด
เขากล่าวว่าทางกระทรวงต้องการมองหาเจ้าของผลงานคิดค้น ที่พิสูจน์ได้ว่าสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานคลื่นทะเลได้มากที่สุด การทดสอบจะใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูงที่สามารถแปลงพลังงานกลของอุปกรณ์ที่เข้าประกวดเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อให้กรรมการตัดสินมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่เข้าประกวดทำได้ตามเป้าหมายของการประกวด
คุณ Zayas เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐฯ กล่าวปิดท้ายรายงานว่า เป้าหมายสูงสุดของการประกวดนี้คือมุ่งส่งเสริมการคิดค้นเทคโนโลยีเพื่อการผลิตไฟฟ้าแบบใหม่ๆแห่งศตวรรษที่ 21
ผู้คิดค้นเทคโนโลยีที่จัดว่ายอดเยี่ยมที่สุดสามอันดับจะได้รับรางวัลมูลค่าตั้งแต่ 250,000 ดอลล่าร์จนถึง 1,500,000 ดอลล่าร์