รัฐบาลไต้หวันออกมาวิจารณ์องค์การอนามัยโลก (WHO) ว่า ทำงานอย่าง “ไม่รู้สึกแยแส” ต่อสิทธิ์ด้านสาธารณสุขของประชาชนในเกาะแห่งนี้ หลังไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การอนามัยโลก ตามรายงานของ รอยเตอร์
ในการประชุมสมัชชาใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนงานรับผิดชอบการตัดสินใจต่างๆ ขององค์การอนามัยโลก ที่เริ่มขึ้นในวันจันทร์ ในนครเจนีวานั้น รายงานข่าวระบุว่า เหตุผลที่ไต้หวันไม่ได้รับเทียบเชิญนั้นเป็นเพราะถูกกดดันจากรัฐบาลจีน
โจเซฟ วู รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน และเจิน ชื่อ-ชุง รัฐมนตรีสาธารณสุขไต้หวัน ร่วมกันออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า “ในฐานะหน่วยงานมืออาชีพด้านสุขภาพระหว่างประเทศ องค์การอนามัยโลกควรจะมุ่งทำงานเพื่อสุขภาพและสวัสดิการของมนุษยชาติ และไม่ยอมจำนนต่อผลประโยชน์ด้านการเมืองของประเทศสมาชิกใดประเทศหนึ่ง”
สำหรับการประชุมใหญ่ที่จัดขึ้นแบบออนไลน์ในปีนี้ หัวข้อที่ถูกเลือกให้เป็นประเด็นหลักของงาน คือ “Ending This Pandemic, Preventing the Next Pandemic, and Building Together a Healthier, Safer and Fairer World” หรือ การหาทางยุติการระบาดใหญ่ครั้งนี้ การป้องกันการระบาดใหญ่ครั้งหน้า และการร่วมสร้างโลกที่มีความเป็นธรรมมากกว่า ปลอดภัยกว่า และให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีกว่าเดิม”
ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขและผู้ที่ทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องทั่วโลกล้วนยืนอยู่ที่ทางแยกระหว่างความเป็นและความตายมาเกือบ 18 เดือน ทั้งยังได้ช่วยชีวิตผู้คนนับจำนวนไม่ถ้วน แต่ก็มีกรณีที่ไม่สามารถช่วยหลายคนได้ แม้จะพยายามสุดความสามารถแล้วก็ตาม
และขณะที่ เกเบรเยซุส แสดงความยินดีว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายใหม่จากทั่วโลกลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 3 สัปดาห์แล้ว ผู้อำนวยการใหญ่ WHO เตือนว่า ทั่วทั้งโลกยังคงอยู่ในภาวะที่มีอันตรายสูง พร้อมระบุว่า ทุกคนต้องเข้าใจตรงกันว่า ภาวการณ์ระบาดใหญ่นี่ยังไม่สิ้นสุด และจะไม่มีทางสิ้นสุดจนกว่าการแพร่กระจายของไวรัสในทุกประเทศได้รับการควบคุมเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนั้น เกเบรเยซุส ยังวิจารณ์ประเทศร่ำรวยทั้งหลายกรณีที่เรียกว่าเป็น “ความไม่เท่าเทียมกันอันแสนอื้อฉาว” ในการนำส่งวัคซีนโควิด-19 ที่ “ทำให้การระบาดเป็นวงกว้างเกิดการยืดเยื้อ” โดยชี้ว่า กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ของวัคซีนที่มีการฉีดไปทั่วโลกจนถึงเวลานี้ เป็นการแจกจ่ายอยู่ใน 10 ประเทศเท่านั้น
ขณะเดียวกัน อินเดียกลายมาเป็นประเทศที่ 3 ในโลกที่ยืนยันตัวเลขสะสมของผู้เสียชีวิตเพราะโควิดที่กว่า 300,000 คนในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกกว่า 4,000 คน ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของอินเดียลดลงมาที่ระดับ 222,315 คน ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมากจากระดับกว่า 400,000 คนต่อวัน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ณ บ่ายวันจันทร์ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกแล้วกว่า 3.46 ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ราว 167 ล้านคน โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดยังคงเป็นสหรัฐฯ ที่ 33.1 ล้านคน ตามมาด้วย อินเดียที่ 26.7 ล้านคน และ บราซิลที่กว่า 16 ล้านคน
