ขณะนี้การเมืองสหรัฐฯ กับการแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นสองเรื่องที่ผูกติดกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อมีตำแหน่งตุลาการศาลสูงว่างลงและการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังจะเกิดขึ้นในอีกเพียงแค่ราว 40 วันเท่านั้น
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้คำมั่นว่าจะเสนอชื่อผู้พิพากษาแนวคิดอนุรักษ์นิยม ให้ทำหน้าที่แทนตำแหน่งที่ว่างลง หลังการเสียชีวิตของตุลาการ รูธ แบเดอร์ กินส์เบิร์ก ที่มีแนวคิดเสรีนิยมที่สุด ในบรรดาตุลาการศาลสูง ทั้งหมด 9 คน
หากชื่อที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอได้รับการรับรองจากวุฒิสภา ศาลสูงจะมีผู้พิพากษาแนวคิดอนุรักษ์นิยม มากกว่าเสรีนิยมอย่างชัดเจน คือ 6 ต่อ 3
ในบรรดาหัวข้อหลักที่อาจถูกนำมาพิจารณาในกระบวนการสรรหา อาจเกี่ยวข้อกับ 3 เรื่องที่มีผลต่อคนอเมริกันจำนวนมาก คือ สิทธิ์การทำแท้ง การประกันสุขภาพทั่วหน้าภายใต้กฎหมาย ‘โอบามาแคร์’ และการคุ้มครองสิทธิ์ต่อเพศทางเลือก LGBTQ
สำหรับประเด็นเรื่อง ‘โอบามาแคร์’ จากสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอมามา ที่ผ่านมาศาลสูงสกัดกั้นความพยายามลดทอนการประกันสุขภาพในโครงการดังกล่าว
กฎหมาย ‘โอบามาแคร์’ หรือ Affordable Care Act ได้รับการลงมติรับรองจากสภาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อช่วยให้ชาวอเมริกัน 20 ล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพได้รับสวัสดิการนี้ อย่างไรก็ตามมีผู้สนับสนุนกฎหมายดังกล่าวประมาณ 50 กว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยผู้ไม่เห็นด้วยกล่าวว่าใช้เงินมากเกินกว่าที่จะทำได้ต่อเนื่องและยั่งยืน
ก่อนหน้านี้เกิดความพยายาม 2 ครั้งที่สามารถนำเรื่องให้ศาลสูงพิจารณาความถูกต้องทางกฎหมายของ ‘โอบามาแคร์’ แต่กฎหมายฉบับนี้ก็ยังคงอยู่ โดยผู้พิพากษาแนวคิดเสรีนิยมทั้ง 4 คน ซึ่งรวมถึงตุลาการกินส์เบิร์ก ได้แนวร่วมคือ ผู้พิพากษาจอห์น โรเบิร์ตส์ ซึ่งเป็นหัวหน้าตุลาการศาลสูง ผนึกกำลังเป็น 5 เสียงที่รักษาสถานะของ ‘โอบามาแคร์’
และในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ หรือหนึ่งสัปดาห์หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ศาลสูงมีกำหนดรับฟังข้อมูล จากฝ่ายคัดค้านกฎหมายดังกล่าว ถือเป็นการท้าทายรอบที่ 3 ต่อ ‘โอบามาแคร์’ แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตของ ตุลาการกินส์เบิร์ก
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาศาลสูงขยายการรับรองสิทธิ์ชาว LGBTQ
แม้ว่าศาลสูงลงมติว่ารัฐธรรมนูญให้สิทธิ์คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ศาลก็มีทิศทางสนับสนุนกลุ่มเคร่งศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ ในกรณีที่เกิดการขัดกันระหว่างเสรีภาพทางศาสนาและสิทธิ์ของชาว LGBTQ
ตัวอย่างดังกล่าวเห็นได้ในคดีที่ศาลสูงพิจารณาเมื่อ 3 ปีก่อนที่การวินิจฉัยเป็นไปตามจุดยืนของร้านขนมเค้กที่ไม่ยอมทำเค้กแต่งงานให้กับคนรักเพศเดียวกัน โดยอ้างเหตุผลด้านความเชื่อทางศาสนา
และในเดือนพฤศจิกายนเช่นกันศาลสูงจะวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวกับ การปฏิเสธขององค์กรคาทอลิก ซึ่งไม่ให้คู่รักเพศเดียวกันเป็นผู้ปกครองรับเลี้ยงเด็ก
ส่วนเรื่องสิทธิ์ในการทำแท้งได้รับความสนใจมากเช่นกัน ศาลสูงเคยตัดสินเมื่อ 47 ปีก่อน ให้สตรีทำแท้งได้ ในคดีประวัติศาสตร์ Roe v. Wade ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฝ่ายอนุรักษ์นิยมพยายามหาทางแก้ผลทางกฎหมายที่เกิดขึ้น และหากว่าประธานาธิบดีทรัมป์ สามารถแต่งตั้งผู้พิพากษาแนวคิดอนุรักษ์นิยมเพิ่มเข้ามา ฝ่ายเสรีนิยมหวั่นเกรงว่าคำตัดสินของศาลในคดี Roe v. Wade อาจถูกบั่นทอน
เมื่อต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีทรัมป์เผยชื่อสตรีสามคนที่เขากำลังพิจารณาแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลสูง ซึ่งทั้งสามเป็นผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ คือ อัลลิสัน โจนส์ รัชชิ่ง, เอมี คอนีย์ แบร์เร็ต และบาร์บารา ลาโกอ์
อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการกลั่นกรองของวุฒิสภา ซึ่งผู้ได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ต้องตอบคำถามวุฒิสมาชิก ผู้ที่ถูกซักถามอาจเลี่ยงไม่เเสดงความคิดเห็นได้ ดังเช่นที่อาจารย์สายกฤษณะ ปรากาช แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียตั้งข้อสังเกตไว้
อาจารย์วิชากฎหมายผู้นี้กล่าวว่า ผู้ตอบคำถามจากคณะกรรมาธิการกลั่นกรองของวุฒิสภา อาจบอกว่า ขอสงวนการพูดถึงการพิจารณาคดีที่อาจต้องทำหน้าที่ในอนาคต
ดังนั้น ผู้ติดตามการซักถามทัศนะทางกฎหมายของสตรีผู้ได้รับการแต่งตั้ง ในกระบวนการกลั่นกรองของคณะกรรมาธิการของวุฒิสภา อาจไม่ได้ยินคำตอบแบบฟันธงในข้อกฎหมายทั้งสามประเด็นที่กล่าวมา และต้องรอจนถึงการทำหน้าที่จริงว่าจะเป็นไปตามการคาดเดาจากประวัติการทำงานหรือไม่