เมืองธาราวี นครมุมไบ หนึ่งในชุมชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแผนที่จะถูกพัฒนาให้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางที่ทันสมัย โครงการมูลค่ามหาศาลนี้ได้สร้างทั้งโอกาสรวมทั้งความกังวลถึงความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชนดังกล่าว
อับดุล กาดีร์ อันซารี เจ้าของธุรกิจร้านตัดเย็บ ที่ดำเนินกิจการมาแล้วราวสี่ปี เผยว่าแผนพัฒนามูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ที่จะกวาดล้างชุมชนแออัดและสร้างอาคารทันสมัย ทำให้เขารู้สึกวิตกต่ออนาคตของธุรกิจที่มีอยู่
กาดีร์ อันซารี กล่าวว่า “ร้านของผมที่นี่จะต้องปิดตัวลงแล้ว ตึกต่าง ๆ จะถูกสร้างขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าจะมีที่สำหรับทำกินต่อไปหรือไม่”
ภาครัฐได้ลงนามทำสัญญากับกลุ่มบริษัท Adani Group เพื่อที่จะปรับปรุงพื้นที่ราว 1,562 ไร่ของเมืองธาราวี ใจกลางนครมุมไบ อันเป็นที่อยู่ของชุมชนแออัดที่มีประชากรนับล้านอาศัยอยู่ โดยวางแผนที่จะสร้างอาคารสำหรับที่พักอาศัย รวมไปถึงอาคารพาณิชย์ ในบริเวณดังกล่าว
ปราโมด คาเด ชาวเมืองธาราวี ที่ครอบครัวอาศัยอยู่ตรงนี้มาหลายรุ่น การพัฒนาที่จะเกิดขึ้นสร้างความหวังสำหรับคนรุ่นถัดไป คาเด บอกว่า “ทั้งรุ่นพ่อ รุ่นปู่ ต่างอาศัยอยู่ที่นี่ อย่างน้อยเด็กรุ่นถัดไปจะได้อาศัยอยู่ในตึก และเป็นสิ่งที่พวกเขาหลายคนต่างใฝ่ฝัน”
แต่บางคนกลับแสดงความกังวล ว่าการเปลี่ยนแปลงเมืองธาราวีครั้งนี้ จะทำให้ผู้คนต้องสูญเสียการดำรงชีพอย่างที่เคยเป็นมา แหล่งผลิตสินจำนวนหลายร้อยแห่งที่ตั้งตามตรอก ซึ่งผลิตทั้งกระเป๋าหนังและเครื่องปั้นดินเผามาเป็นระยะเวลานานนับทศวรรษ แหล่งผลิตเหล่านี้เป็นธุรกิจนอกระบบที่คาดว่าผลิตสินค้าซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจราวหนึ่งพันล้านดอลลาร์
จายา บีฮาน เจ้าของร้านเครื่องปั้นดินเผาในชุมชนดังกล่าว กังวลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ธุรกิจที่เลี้ยงครอบครัวต้องถูกปิดลง เธอเผยว่า “ไม่มีใครจะมาจ้างงานคนที่มีอายุอย่างฉัน เราเป็นคนที่ไม่ได้เล่าเรียนมา และคนที่มีการศึกษาเท่านั้นถึงจะมีงานทำ”
เมคา กุปตะ เจ้าของธุรกิจเวปไซต์ DharaviMarket.com ว่าจ้างแรงงานเพื่อผลิตสินค้าจากชุมชนแออัด ให้ข้อมูลว่า “คนที่นี่ทำงานเพื่อแค่เอาชีวิตรอด ไม่ได้มีความเจริญมากขึ้น เพราะเป็นงานที่มีผลกำไรน้อยมาก”
กุปตะมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงของเมืองธาราวี จะมาพร้อมการดูแลด้านธุรกิจของคนในชุมชน เธอมองว่าเราไม่สามารถบอกให้คนจำนวนนับล้านออกจากพื้นที่เพื่อไปหางานทำที่อื่น อย่างไรก็ดีโครงการนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และมันไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนบนโลกใบนี้
ตามรายงานระบุว่า ยังไม่มีการเข้าไปเจรจากับผู้คนในชุมชน สัจวัน มารูติ คัมบลี ช่างงานหนัง บอกว่าชั้นบนของบ้านทุกหลังในชุมชนนี้ คือพื้นที่ทำงาน ทางผู้พัฒนาโครงการควรที่จะดูแลทั้งในเรื่องที่อยู่อาศัยและแหล่งทำมาหากิน
ประเด็นความกังวลทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อชาวชุมชนเมืองธาราวี เป็นสิ่งที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจน อย่างไรก็ดีมีการมองในแง่ดีว่า การพัฒนาครั้งนี้จะมาช่วยชุบชีวิต ปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้คนนับล้านให้ดีขึ้น
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น