หลังจากที่ถูกวิจารณ์ว่ามีท่าที่ไม่แข็งขันเพียงพอต่อการทดลองนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รัฐบาลเกาหลีใต้ปรับท่าทีใหม่ให้ใกล้เคียงกับแนวทางที่สหรัฐฯ ผลักดันในขณะนี้ เพื่อกดดันให้ผู้นำเกาหลีเหนือ นาย คิม จอง อึน ร่วมเจรจาการปลดอาวุธนิวเคลียร์
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ กัง เคียง วา กล่าวที่งานแถลงข่าวที่กรุงโซลในวันจันทร์ว่า การทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือที่ผ่านมา ทำให้เกาหลีใต้ต้องกลับมาพิจารณานโยบายต่อกรุงเปียงยางใหม่
ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีร้อนแรงขึ้นอีกระดับ หลังจากการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 6 เมื่อต้นเดือนกันยายน หลายฝ่ายยิ่งกังวลว่า มาตรการกดดันด้วยการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อกรุงเปียงยางที่ผ่านมาดูเหมือนจะไม่ได้ผล
แม้ว่า ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นาย มูน แจ อิน เคยสนับสนุนให้ใช้นโยบายที่สมดุลต่อเกาหลีเหนือ คือมีทั้งการลงโทษและการจูงใจให้เกิดการเจรจา แต่ฝ่ายเปียงยางเพิกเฉยที่จะร่วมมือกับแนวทางแบบผสมผสานนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ วิจารณ์แนวทางของ นาย มูน แจ อิน ผู้นำเกาหลีใต้ ว่าโอนอ่อนเกินไปต่อเกาหลีเหนือ โดยที่แนวทางของทรัมป์เน้นการกดดันด้วยมาตรการลงโทษและการขู่ด้วยยุทธศาสตร์ทางทหาร
รัฐมนตรีกัง ของกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ บอกว่า ที่ผ่านมานโยบายผสมผสานของรัฐบาลกรุงโซลไม่ใช่การโอนอ่อนต่อเกาหลีเหนือ และเธอยอมรับว่าสถานการณ์ยังปัจจุบันไม่เหมาะต่อการเจรจา
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีมูน กล่าวสัปดาห์ที่แล้วว่า มีเหตุผลที่จะเพิ่มการลงโทษเปียงยาง ระหว่างที่เขาพบกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย
ปัจจุบัน ผู้ที่ต้องการให้เกิดการเจรจากับเกาหลีเหนือยังไม่เห็นสัญญาณทางบวก
อาจารย์ อังเดร แลนคอฟ จากมหาวิทยาลัย Kookmin ที่กรุงโซล กล่าวว่า ตนไม่คาดหมายว่า เกาหลีเหนือสนใจที่จะเจรจาเพื่อให้เกิดการชะลอ หรือยุติโครงการนิวเคลียร์ของตน จนกว่าเกาหลีเหนือจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีจนมีศักยภาพเพียงพอที่จะยิงขีปนาวุธได้ถึงแผ่นดินสหรัฐฯ
ในเรื่องการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ รัฐมนตรีกัง กล่าวว่า รัฐบาลของเธอไม่สนับสนุนเรื่องนี้
เธอกล่าวว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา มากไปกว่าประโยชน์ที่จะได้รับเรื่องกลาโหมและยุทธศาสตร์ เพราะต้องคำนึงถึงค่านิยมในระดับนานาชาติเรื่องการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ด้วย
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Brian Padden)