ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เกาหลีใต้สั่งตรวจเครื่องบินโบอิ้ง หลังเหตุ ‘เจจูแอร์’ คร่า 179 ชีวิต


ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปยังจุดเกิดเหตุเครื่องบินเจจูแอร์ตก ที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในเกาหลีใต้ 30 ธ.ค. 2024 (Photo by YONHAP / AFP)
ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปยังจุดเกิดเหตุเครื่องบินเจจูแอร์ตก ที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในเกาหลีใต้ 30 ธ.ค. 2024 (Photo by YONHAP / AFP)

รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ชเว ซัง ม็อก ออกคำสั่งตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้งที่ใช้กับสายการบินเกาหลีใต้ ระหว่างที่ทีมสืบสวนยังหาทางระบุตัวเหยื่อผู้เสียชีวิต และหาสาเหตุของอุบัติเหตุทางเครื่องบินที่เลวร้ายที่สุดในแผ่นดินเกาหลีใต้ครั้งนี้

ผู้โดยสาร 175 ราย และลูกเรืออีก 4 คนเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเจจูแอร์ เที่ยวบิน JJ2216 เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิของไทยมายังเกาหลีใต้ ไถลออกจากรันเวย์และชนกับรั้วคอนกรีตจนเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้ ที่สนามบินนานาชาติมูอัน โดยมีลูกเรือเพียง 2 คนที่รอดชีวิตจากไฟลท์มรณะนี้

ชเว กล่าวในการประชุมการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรุงโซลเมื่อวันจันทร์ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ช่วยเหลือครอบครัวของเหยื่อ และรักษาผู้รอดชีวิตทั้ง 2 รายจากเหตุการณ์นี้ และขอให้ทางการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลขั้นตอนการสืบสวนและแจ้งต่อครอบครัวเหยื่อโดยทันที พร้อมสั่งการให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบระบบความปลอดภัยของเครื่องบินของสายการบินทั้งหมดเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย

ในประเด็นนี้ กระทรวงคมนาคม ประกาศแผนตรวจสอบความปลอดภัยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ที่สายการบินของเกาหลีใต้นำมาใช้จำนวน 101 ลำ เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป โดยมุ่งเน้นที่ข้อมูลบันทึกการตรวจซ่อมบำรุงส่วนสำคัญของเครื่องบินเหล่านี้

ยังคงมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับต้นตอของเหตุสลดครั้งนี้ โดยทีมสืบสวนยังตรวจสอบประเด็นเครื่องบินชนนก รวมถึงตรวจสอบว่าระบบควบคุมอากาศยานถูกปิดไปในช่วงเวลาเกิดเหตุหรือไม่ และความรีบร้อนอย่างเห็นได้ชัดของนักบินที่พยายามเอาเครื่องลงจอดอย่างทันทีหลังจากมีประกาศเตือนฉุกเฉิน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่คมนาคมเกาหลีใต้

เมื่อวันจันทร์ ทางการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า นักบินได้เตรียมแจ้งหน่วยควบคุมการบินว่าเครื่องบินเสียหายจากเหตุเครื่องบินชนนก ไม่นานหลังจากหอบังคับการบินเตือนพวกเขาว่ามีนกอยู่บริเวณเส้นทางการบิน จากนั้นนักบินได้แจ้งเตือนฉุกเฉินและส่งสัญญาณว่าจะไม่ลงจอดและพยายามจะบินวนอีกครั้ง แต่ไม่นานเครื่องบินลำนี้ลงมาที่รันเวย์โดยท้องเครื่องแตะพื้นและไถลไปชนรั้ว

ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศยานชี้ว่ายังมีอีกหลายคำถามที่ยังคงอยู่ เช่น เหตุผลที่เครื่องบินโบอิ้งลำดังกล่าวเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เหตุผลที่ส่วนของเครื่องบินที่ใช้ในการลงจอดไม่ได้ลงมาก่อนที่เครื่องบินจะไถลบนรันเวย์และพุ่งชนรั้วคอนกรีต รวมทั้งเสาสัญญาณในแนวระนาบ (Localizer Antenna) ที่อยู่ปลายรันเวย์เพื่อช่วยในการลงจอด และรั้วคอนกรีตที่อาจมีส่วนทำให้เครื่องบินระเบิดจนเกิดเพลิงลุกไหม้

คริสเตียน เบคเคิร์ท ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินและนักบินสายการบินลุฟต์ฮันซา ที่มีสำนักงานในนครมิวนิค บอกกับรอยเตอร์ว่า “ปกติแล้วสนามบินที่มีรันเวย์ในช่วงสุดทางสนามบินจะไม่มีกำแพง .. แต่อาจจะมีระบบที่ช่วยให้เครื่องบินจมลงสู่พื้นเล็กน้อยและสามารถเบรกได้”

เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคม ระบุว่า ได้กู้ระบบเก็บข้อมูลการบินไปแล้ว แต่พบความเสียหายด้านนอกของชิ้นส่วนดังกล่าว และยังไม่มีความชัดเจนว่าข้อมูลภายในยังคงมีอยู่ให้เข้าตรวจสอบหรือไม่ และได้นำชิ้นส่วนนี้ส่งกลับไปยังกรุงโซลเพื่อเริ่มการวิเคราะห์ข้อมูลภายใน เมื่อทีมงานของโบอิ้งและคณะกรรมการความปลอดภัยทางคมนาคมแห่งชาติ หรือ NTSB มาถึงกรุงโซลช่วงค่ำวันจันทร์

ตามหลักการแล้วเกาหลีใต้จะเป็นโต้โผในการสืบสวนเหตุเครื่องบินตกและต้องให้ NTSB เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติเนื่องจากเครื่องบินที่เกิดเหตุนั้นผลิตในสหรัฐฯ

ในวันจันทร์ หุ้นสายการบินเจจูแอร์ ดิ่งหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ ที่ 15.7% ส่วนหุ้นโบอิ้งร่วม 4.2% ในการซื้อขายเช้าวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐฯ และคาดว่าจะสูญเสียมูลค่าตลาด 5,000 ล้านดอลลาร์ทีเดียว

ด้านมาร์กอส อัลวาเรซ ผู้บริหารบริษัทจัดอันดับประกันภัยทั่วโลก Morningstar DBRS ประเมินว่าจะมีการเคลมค่าเสียหาย 15-20 ล้านดอลลาร์จากทางสายการบิน และค่าเสียหายจากฝั่งผู้โดยสาร 120-180 ล้านดอลลาร์จากเหตุการณ์ครั้งนี้

สำหรับการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินระเบิดนี้ ได้มีการจัดตั้งอนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ที่โรงยิมท้องถิ่น ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 9 กิโลเมตร ซึ่งรักษาการ ปธน. ชเว เดินทางไปร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตเมื่อวันจันทร์

  • ที่มา: รอยเตอร์

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG