ยังคงมีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับสาเหตุของเหตุการณ์ที่เครื่องของสายการบินเจจูแอร์ไถลออกนอกรันเวย์และชนกำแพงคอนกรีตที่สนามบินนานาชาติมูอัน ของเกาหลีใต้เมื่อวันเสาร์ที่ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือ 179 คนเสียชีวิตในอุบัติเหตุด้านการบินที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศในรอบ 27 ปี ตามรายงานของรอยเตอร์
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ลงจอดโดยล้อไม่กางออก และช่วงเวลาที่ตัวเครื่องลงแตะรันเวย์โดยใช้ท้องเครื่องไถลไปกับรันเวย์และรายงานเกี่ยวกับการที่น่าจะมีนกบินเข้าชนตัวเครื่อง
คลิปวิดีโอที่สื่อท้องถิ่นเกาหลีใต้เผยแพร่ออกมาทำให้ทุกคนได้เห็นภาพของเที่ยวบิน JJ2216 ของสายการบินเจจูแอร์ซึ่งเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังเมืองทางใต้ของเกาหลีใต้แห่งนี้ ตั้งแต่เริ่มลดระดับลงที่รันเวย์จนถึงเวลาที่เข้าชนกับรั้วสนามบินจนเกิดระเบิดขึ้น
ลี จุง-ฮยุน หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงเมืองมูอัน ระบุในการแถลงข่าวว่า เฉพาะส่วนหางของตัวเครื่องเท่านั้นที่ยังพอจะอยู่ในสภาพเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่ส่วนที่เหลือนั้นเหลือแต่ซาก “จนเกือบจะจำสภาพไม่ได้”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิตลูกเรือที่เป็นชายหนึ่งและหญิงหนึ่งออกมาจากส่วนหางของเครื่องบินที่ถูกไฟไหม้ท่วมอยู่ และได้ถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพราะแผลไหม้ระดับกลางถึงระดับรุนแรง อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์การแพทย์ท้องถิ่น
ลีเปิดเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนได้เริ่มทำการตรวจสอบปัจจัยต้องสงสัยว่าเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมนี้ อันมีทั้งกรณีที่ว่ามีนกบินชนเครื่องและสภาพอากาศก่อนเกิดเหตุด้วย
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญไม่ปักใจเชื่อในสมมติฐานและคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับการที่มีนกชนเครื่อง
เจฟฟรีย์ โธมัส บรรณาธิการสื่อ Airline News กล่าวว่า กรณีนกบินชนเครื่องนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ขณะที่ปัญหาของส่วนล่างของลำเครื่องบินก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ พร้อมระบุว่า “เหตุการณ์นกบินชนนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่า(ที่หลายคนรู้) แต่ปกติ นั่นจะไม่ทำให้เครื่องบินตก”
ขณะเดียวกัน โธมัสตั้งคำถามด้วยว่า “ทำไมเจ้าหน้ากู้ภัยภาคพื้นดินจึงไม่ทำการยิงโฟมปูพื้นรันเวย์รอรับการลงจอด? ทำไมถึงไม่มีการตั้งขบวนรอเข้าช่วยเหลือทันทีที่เครื่องบินลำดังกล่าวแตะรันเวย์? และทำไมตัวเครื่องบินถึงลงจอดไกลจากรันเวย์มาก? และทำไมถึงมีกำแพงอิฐอยู่ที่ปลายรันเวย์?”
ส่วน เจฟฟรีย์ เดลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินจากออสเตรเลีย ให้ความเห็นว่า ตนไม่เคยได้ยินกรณีที่การที่นกบินชนเครื่องบินแล้วทำให้อุปกรณ์นำเครื่องลงจอดไม่ทำงานมาก่อนเลย
เทรเวอร์ เจนเซน ที่ปรึกษาด้านการบินจากออสเตรเลี กล่าวด้วยว่า หน่วยงานดับเพลิงและกู้ภัยฉุกเฉินควรจะเตรียมพร้อมทำหน้าที่ในกรณีที่เครื่องบินลงจอดโดยล้อไม่กาง “ดังนั้น นี่ดูเหมือนว่า ไม่ได้มีการเตรียมการใด ๆ รอเลย”
ทั้งเดลล์และเจนเซนตั้งคำถามด้วยว่า ทำไมเครื่องบินลำดังกล่าวถึงไม่ลดความเร็วหลังตัวเครื่องลงแตะรันเวย์แล้ว
รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้อุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบินได้เมื่อเวลา 11.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ราว 2 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ และได้เก็บกู้อุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบินได้เมื่อเวลา 14.24 น. อ้างอิงประกาศจากกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้
ญาติพี่น้องของเหยื่อเหตุการณ์ครั้งนี้ได้มารวมตัวกันที่สนามบินหลังเกิดเหตุไม่นาน โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นประชนชนที่อาศัยอยู่ในแถบเมืองนี้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากการท่องเที่ยว
ในส่วนของตัวเครื่องบินนั้น รายงานชี้ว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 นั้นเป็นเครื่องที่สายการบินส่วนใหญ่นิยมใช้งานมากรุ่นหนึ่งที่สุดในโลกและมีประวัติด้านความปลอดภัยดีมากทีเดียว โดยรุ่นนี้ถูกพัฒนาออกมาตั้งแต่ก่อนจะเกิดรุ่นแม็กซ์ที่ประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนทำให้บริษัทโบอิ้งต้องประสบวิกฤตหนัก
ทั้งนี้ โบอิ้งระบุในแถลงการณ์ที่ส่งทางอีเมลให้ผู้สื่อข่าวว่า “เราได้ติดต่อกับกับเจจูแอร์เกี่ยวกับกรณีเที่ยวบิน 2216 แล้วและพร้อมให้การสนับสนุนช่วยเหลือทุกอย่าง เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป”
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น