เมื่อวันศุกร์ ทางการจีนสั่งให้ประชาชนทั้ง 1.3 ล้านคนในเขตหยางปู่ที่ นครเซี่ยงไฮ้ เข้าตรวจเชื้อโคโรนาไวรัสครั้งใหญ่ โดยผู้ตรวจเชื้อต้องกักตนอยู่ในบ้านอย่างน้อยจนกว่าจะทราบผลตรวจ ตามรายงานของเอพี
คำสั่งดังกล่าวเป็นไปในทางเดียวกับมาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ทั้งเมืองเป็นเวลาสองเดือน ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา จนสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหาร และการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนและรัฐบาลที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก
จีนยังไม่มีท่าทีผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หลังจากที่การประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในสัปดาห์นี้ ลงมติให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่อเป็นสมัยที่สาม โดยผู้จงรักภักดีของเขาต่างได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในพรรค
จีนใช้มาตรการคุมโควิดอย่างเข้มข้นทั่วประเทศ นับตั้งแต่ในนครเซี่ยงไฮ้ไปจนถึงเขตปกครองตนเองทิเบต ขณะที่มีการประท้วงต่อต้านการล็อกดาวน์เช่นกัน โดยคลิปวิดีโอที่ถ่ายโดยโทรศัพท์มือถือ เผยให้เห็นชาวทิเบตและผู้อพยพชาวจีนฮั่นเดินประท้วงบนท้องถนนในนครลาซาของทิเบต เพื่อต่อต้านมาตรการล็อคดาวน์ที่ดำเนินมาแล้ว 74 วัน
ทั้งนี้ นครลาซาถูกทางการจีนจับตามองอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่เกิดเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ในเมืองดังกล่าวเมื่อปี 2008 ก่อนที่การประท้วงจะลุกลามไปทั่วทิเบต
เมื่อวันพุธ ทางการยังสั่งล็อกดาวน์เมืองอู่ฮั่นอย่างน้อยห้าวัน นอกจากนี้ ยังมีการสั่งล็อกดาวน์นครซีหนิง มณฑลชิงไห่ มาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน ชาวจีนจำนวนมากหวังว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายคุมโควิด ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกกลับมาเปิดประเทศกันแล้ว แต่จีนยังคงปิดชายแดนส่วนใหญ่และผู้ที่เดินทางเข้าประเทศต้องกักตนเป็นเวลาสิบวันในสถานที่ที่ทางการกำหนด
แม้มาตรการดังกล่าวจะใช้งบประมาณสูงและเป็นแนวทางที่องค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นวิธีที่ไม่ยั่งยืน แต่ทางการจีนยังคงเห็นว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตในประเทศต่ำกว่าประเทศอื่น แม้การเก็บสถิติของจีนจะถูกตั้งคำถามจากภายนอกก็ตาม
เมื่อวันศุกร์ จีนรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1,337 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม นครเซี่ยงไฮ้รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ 11 คน ขณะที่ทิเบตมีผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการหนึ่งคน และไม่แสดงอาการห้าคน
ทางการจีนระบุว่า มีผู้ติดเชื้อในประเทศทั้งหมด 258,660 คน และมีผู้เสียชีวิต 5,226 คน นับตั้งแต่มีการพบเชื้อครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2019
นิตยสารธุรกิจไฉซิน รายงานว่า ทางการนครเซี่ยงไฮ้วางแผนสร้างศูนย์กักตัวถาวรบนเกาะฟู่ซิง ในแม่น้ำหวงผู่ โดยโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณ 1,600 ล้านหยวน หรือราว 8,382 ล้านบาท และเป็นการสร้างส่วนต่อขยายจากศูนย์กักตัวเดิม เพื่อให้มีห้องกักตัว 3,009 ห้อง และเตียง 3,250 เตียง โดยคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในอีกหกเดือน
มาตรการวัคซีนของจีน
วัคซีนที่จีนผลิตมักถูกพิจารณาว่าด้อยประสิทธิภาพ และจีนนังคงไม่อนุมัติวัคซีนจากต่างประเทศ เช่น วัคซีนของไฟเซอร์ โมเดอร์นา แอสตราเซเนกา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
อย่างไรก็ตาม จีนยังคงต้องการให้ประชาชนฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์มากขึ้นก่อนที่จะผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด โดยนับถึงช่วงกลางเดือนตุลาคม ชาวจีน 90% ฉีดวัคซีนครบแล้ว และ 57% ฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้ว
จีนใช้วัคซีนที่พัฒนาภายในประเทศ โดยใช้วัคซีนเชื้อตายสองสูตรเป็นหลัก โดยวัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเสียชีวิตและอาการเจ็บป่วยรุนแรง แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการหยุดการแพร่ระบาดได้ต่ำกว่าวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์นา
- ที่มา: เอพี
