คนรุ่นใหม่ในซาอุดิอาระเบียตอบรับในทางบวกต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หลังจากที่มกุฎราชกุมาร "โมฮาหมัด บิน ซัลมาน" สั่งควบคุมตัวมหาเศรษฐีพันล้าน รัฐมนตรีหลายคน รวมถึงเจ้าชายหลายพระองค์ เพื่อกวาดล้างคอร์รัปชั่นในประเทศ
การปราบปรามนี้เกิดขึ้นขณะที่ มกุฎราชกุมารโมฮาหมัด ผลักดันให้สตรีมีเสรีภาพมากขึ้น ลดอำนาจของตำรวจศาสนา และที่สำคัญ พระองค์ต้องการปฏิรูปเศรษฐกิจซาอุดิอาระเบียให้พึ่งพาน้ำมันน้อยลง
พระองค์ยังเสนอว่าจะทำให้สังคมเดินตามการตีความศาสนาอิสลามที่เป็นแนวทางสายกลางมากขึ้น ซึ่งท่าทีดังกล่าวบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ซาอุฯ และกลุ่มผู้นำศาสนา
แม้ว่า มกุฎราชกุมารโมฮาหมัด ใช้มาตรการเด็ดขาดในการจับกุมตัวบุคคลจำนวนมาก ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงจะจบลงเร็วนี้
Gerald Feierstein อดีตนักการทูตสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์ที่สถาบัน Middle East Institute กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการกวาดล้างของมกุฎราชกุมารโมฮาหมัด ที่มีพระชนมายุ 32 ชันษา เป็นการปราบคอร์รัปชั่นที่ทำอย่างตรงไปตรงมา หรืออาจเป็นกระบวนการทางการเมืองเพื่อรวมอำนาจ
ผู้อำนวยการบริหารของบริษัทลงทุน Lafayette Group ของสหรัฐฯ นาย Jean-Froncois Seznec กล่าวว่า หากคนยังกังวลถึงสถานการณ์ในซาอุดิอาระเบียอยู่ การลงทุนในประเทศอาจชะลอลงได้