บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย อะแรมโก (Aramco) ประกาศทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของจีน รวมถึงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งใหม่
คำประกาศของบริษัทอะแรมโกมีขึ้นในวันจันทร์ เมื่อทางบริษัทประกาศผลกำไรสูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ระดับมากกว่า 160,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่รัฐบาลซาอุฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯ กำลังสานสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลกรุงปักกิ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้
ภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ อะแรมโกจะซื้อหุ้น 10% ในบริษัทหรงเสิง ปิโตรเคมิคอล (Rongsheng Petrochemical) ของจีน ด้วยวงเงิน 3,600 ล้านดอลลาร์ โดยอะแรมโกจะเป็นผู้จัดส่งน้ำมันดิบ 480,000 บาร์เรลต่อวันให้แก่บริษัทเจ้อเจียง ปิโตรเลียมและเคมิคอล (Zhejiang Petroleum and Chemical) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของบริษัทหรงเสิง ผู้เป็นเจ้าของโรงกลั่นและโรงงานเคมีขนาดใหญ่ที่สุดของจีน
โมฮัมเหม็ด อัล กาห์ตานี รองประธานบริหารของอะแรมโก มีแถลงการณ์ว่า "คำประกาศครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือในระยะยาวของอะแรมโกกับจีน และความเชื่อมั่นในพื้นฐานของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของจีน" และ "เป็นการให้สัญญาว่าจะจัดส่งน้ำมันดิบที่พึ่งพาได้ให้แก่หนึ่งในโรงกลั่นที่ทรงความสำคัญที่สุดของจีน"
เมื่อวันอาทิตย์ อะแรมโกเพิ่งประกาศแผนสร้างโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานปิโตรเคมีแห่งใหม่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ผ่านการร่วมทุนกับบริษัทจีน โดยปัจจุบัน อะแรมโก ถือหุ้น 30% ในบริษัทหัวจิน อะแรมโก ปิโตรเคมิคอล (Huajin Aramco Petrochemical Company) และจะจัดส่งน้ำมันดิบ 210,000 บาร์เรลต่อวันให้แก่โรงงานดังกล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียเพิ่มความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนและรัสเซียมากยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยเมื่อต้นเดือนนี้ รัฐบาลซาอุฯ และอิหร่าน บรรลุข้อตกลงฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีค.ศ. 2016 โดยมีจีนเป็นตัวกลาง
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกรุงริยาดก็มีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับรัฐบาลสหรัฐฯ และเพิ่งสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารของบริษัทโบอิ้ง (Boeing) ของอเมริกา มูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน
- ที่มา: เอพี