ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รมต. ต่างประเทศรัสเซีย โทษชาติตะวันตก ต้นเหตุสงครามยูเครน


Russia's foreign minister Sergei Lavrov addresses the Conference on Disarmament, in Geneva
Russia's foreign minister Sergei Lavrov addresses the Conference on Disarmament, in Geneva

นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ตำหนิยูเครนและชาติพันธมิตรว่าสนับสนุน “ลัทธินีโอนาซี” ในยูเครน ในขณะที่ยูเครนและชาติตะวันตกระบุว่า รัสเซียโจมตีเมืองต่างๆ ในยูเครน “อย่างไร้เหตุผล”

ผู้เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติส่วนใหญ่ลุกออกจากที่ประชุมขณะที่ รมต. ลาฟรอฟ เริ่มแถลง โดยที่เขาไม่ทราบถึงบรรยากาศดังกล่าว เนื่องจากเขาต้องแถลงผ่านทางวิดีโอแทนการเข้าประชุมด้วยตนเองตามที่ตั้งใจไว้

รมต. ลาฟรอฟ กล่าวหาสหภาพยุโรปว่าเข้าแทรกแซงสิทธิเสรีภาพในการเดินทางของเขา โดยไม่อนุญาตให้เขาบินผ่านน่านฟ้ายุโรปมายังนครเจนีวา หลังจากนั้น เขาใช้เวลาอีก 20 นาทีโจมตีนโยบายของชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ที่เขาอ้างว่า ทำให้รัฐบาลยูเครนทำสงครามกับประชาชนของตนมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2014

รัฐมนตรีผู้นี้กล่าวหารัฐบาลยูเครนว่าก่ออาชญากรรมและทำสงครามนานแปดปีกับชาวรัสเซียและประชาชนที่ใช้ภาษารัสเซียในเขตปกครองดอแนตสก์และลูฮันสก์

คำกล่าวของ รมต. ลาฟรอฟนี้ขัดแย้งกับจุดยืนส่วนใหญ่ของนานาชาติ เขากล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่สามารถนิ่งเฉยต่อชะตากรรมของชาวรัสเซียและประชาชนในเขตปกครองดังกล่าวได้ ผู้นำรัสเซียจึงรับรองเอกราชของเขตปกครองทั้งสอง และใช้ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” เพื่อปกป้องประชาชนในเขตดังกล่าว

ปธน. ปูตินเองเคยใช้เหตุผลดังกล่าวเพื่อสร้างความชอบธรรมในการบุกรุกยูเครนเช่นกัน ในขณะที่ชาติตะวันตกกลับเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ และโต้ตอบรัสเซียด้วยการออกมาตรการลงโทษ

รมต. ลาฟรอฟโจมตีชาติตะวันตก โดยระบุว่า ชาติตะวันตกระบายความโกรธมายังรัสเซียถึงขนาดทำลายสถาบันและกฎทั้งหมดที่เคยสร้างมา รวมถึงกฎการไม่ละเมิดทรัพย์สินของตัวแทนทางการทูต เขายังย้ำด้วยว่า ความเท่าเทียมกันของอธิปไตยเป็นหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ

นายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เห็นแย้งต่อการอ้างกฎบัตรสหประชาชาติดังกล่าว โดยระบุว่า “เอกราช” ของเขตปกครองดอแนตสก์และลูฮันสก์เป็นการละเมิดบูรณภาพทางชายแดนและอธิปไตยของยูเครน เขายังระบุด้วยว่า การรับรองเอกราชนี้ไม่สอดคล้องกับหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ

ขณะที่ รมต. ลาฟรอฟแถลงนั้น ชาเบีย แมนตู โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ระบุว่า จำนวนผู้ลี้ภัยชาวยูเครนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมโดย UNHCR เผยว่า ในช่วงหกวันที่ผ่านมา มีผู้ลี้ภัยกว่า 660,000 คน ลี้ภัยจากยูเครนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และอาจเป็นวิกฤตผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดของยุโรปในศตวรรษนี้ ขณะที่ UNHCR ใช้ทรัพยากรเพื่อรับมือกระแสผู้อพยพอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

โฆษก UNHCR ยังระบุด้วยว่า ผู้อพยพส่วนใหญ่หนีไปยังโปแลนด์ ฮังการี มอลโดวา โรมาเนีย และสโลวาเกีย ในขณะที่บางส่วนไปยังประเทศยุโรปอื่นๆ และมีอีกจำนวนมากที่หนีไปยังรัสเซีย โดยรัฐบาลของประเทศเหล่านี้เป็นผู้รับผิดชอบดูแลผู้ลี้ภัย

  • รายงานโดย ผู้สื่อข่าววีโอเอ Lisa Schlein
XS
SM
MD
LG