สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน Fitch ระบุในวันพุธที่ผ่านมาว่า “กระบวนการผิดชำระหนี้ หรือแนวโน้มการผิดชำระหนี้ของรัสเซียได้เกิดขึ้นแล้ว” หลังรัฐบาลรัสเซียไม่สามารถผ่อนชำระหนี้นักลงทุนชาวต่างชาติในตลาดตราสารหนี้เมื่อวันที่ 2 มีนาคมได้ ด้วยเหตุนี้ รัสเซียจำต้องชำระหนี้ภายในระยะผ่อนผัน 30 วัน ไม่เช่นนั้น จะถูกขึ้นสถานะผิดชำระหนี้อย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเช่นกัน มอสโกยังมีกำหนดชำระเบี้ยพันธบัตรมูลค่า 117 ล้านดอลลาร์เป็นสกุลเงินดอลลาร์อีกด้วย
ปัจจัยที่ทำให้คนเชื่อว่ารัสเซียอาจจะผิดชำระหนี้มีอะไรบ้าง?
ค่าเงินรูเบิลที่อ่อนตัวลงอย่างหนัก ควบคู่กับมาตรการลงโทษต่างๆจากชาติตะวันตก รวมทั้ง การตัดสถานบันการเงินรัสเซียออกจากระบบ SWIFT ล้วนกระทบต่อ ความสามารถในการชำระหนี้อย่างชัดเจน
รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของรัสเซีย แอนตัน สิลูอานอฟ ได้ประกาศอนุมัติให้ธนาคารต่างๆจ่ายดอกเบี้ยตราสารหนี้คืนด้วยสกุลดอลลาร์ได้ แต่หากประสบปัญหาจากมาตรการลงโทษ จะสามารถชำระหนี้เป็นสกุลเงินรูเบิลแทน
ในทางทฤษฎีแล้ว รัสเซียมีเงินสำรองพอที่จะชำระหนี้ข้างต้น แต่รัฐบาลเครมลินกล่าวว่า เกิดประสบอุปสรรคในการจ่ายหนี้เพราะการคว่ำบาตรจากนานาประเทศ และว่ามีความเสี่ยงที่เงินที่ชำระอาจจะไม่ไปถึงเจ้าหนี้ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯไม่อนุมัติ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า เเม้รัสเซียถูกมาตรการลงโทษ แต่มาตรการเหล่านั้นมิได้ห้ามรัสเซียจ่ายหนี้ที่มีอยู่
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางด้านการเงินจำนวนมากได้ประเมินว่า การลงทุนในสินทรัพย์รัสเซียมีระดับความเสี่ยงสูงอยู่ในกลุ่มที่เรียกตามปกติว่า “junk” นั่นเอง
การชำระหนี้มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง?
รัสเซียสามารถชำระตราสารหนี้บางกรณีด้วยสกุลเงินรูเบิลได้ แต่ตราสารหนี้ที่กล่าวถึงในตอนต้นข่าวนี้ไม่เข้าข่ายข้างต้น
เงินชำระหนี้ของงวดวันที่ 2 มีนาคมได้ถูกส่งไปยังกองทุนของธนาคารกลางรัสเซียแล้ว แต่เงินข้างต้นไม่ได้ถูกส่งไปถึงนักลงทุนชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าหนี้เพราะข้อกำจัดของรัฐบาลรัสเซีย ดังนั้น หลังระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันในการไม่จ่ายหนี้หมดไป รัสเซียจะเข้าขั้นว่าผิดชำระหนี้ในสกุลรูเบิลเพราะค้างจ่ายนั่นเอง
และถึงแม้รัสเซียจะชำระหนี้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้ เคลย์ ลอเวอรี่ ผู้บริหารแห่ง Institute of International Finance ได้เตือนว่ายังจะมีปัญหาอื่นๆ อีกมาก
เขากล่าวว่า “สกุลเงินรูเบิลนั้นยังมีค่าอยู่ แต่ค่าของมันลดลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ผมคาดว่าจะเกิดข้อพิพาททางกฎหมายขึ้นว่า สภาวะปัจจุบันนับเป็นสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงมาก่อน หรือเกิดขึ้นโดยความตั้งใจของรัฐบาลรัสเซียเพราะเข้าบุกรุกยูเครน? สิ่งนี้จะต้องมีการถกกันในศาล”
จะทราบได้อย่างไรว่าประเทศไหน ‘ผิดชำระหนี้’?
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินต่างๆ หรือศาล จะเป็นผู้ตัดสินว่าประเทศใด ‘ผิดชำระหนี้’
ผู้ถือตราสารหนี้ที่มีประกันการถูกเบี้ยวหนี้ ที่เรียกว่า credit default swaps ซึ่งอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยง สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนถึง คณะกรรมการผู้ตัดสิน (determinations committee) ของสถาบันการเงินต่างๆที่เป็นตัวแทนของพวกเขาได้ เพื่อเรียกให้มีการจ่ายเงินทดแทน
ผลกระทบของการผิดชำระหนี้ของรัสเซียมีอะไรบ้าง?
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า นักวิเคราะห์ทางการเงิน ประเมินถึงผลกระทบของการที่รัสเซียค้างชำระหนี้อย่างระมัดระวัง และต่างเห็นพ้องว่าจะไม่เกิดแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดการเงินโลกและสถาบันต่างๆ เหมือนกับการค้างชำระหนี้ในปี 1998 ของรัสเซีย ซึ่งในช่วงเวลานั้น การค้างชำระหนี้พันธบัตรสกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย เกิดขึ้นต่อเนื่องจากวิกฤตการเงินอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
เดเนียล เลนซ์ เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกลยุทธ์แห่งธนาคาร DK ของประเทศเยอรมันกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ยากที่จะประเมินถึงผลกระทบได้อย่างแม่นยำ 100% ก่อนที่จะเกิดการค้างชำระหนี้ขึ้น เพราะแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน เราจะเห็นถึงความรุนแรงต่อตลาดการเงินโลกเมื่อการค้างชำระหนี้เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น”
แต่เขากล่าวเสริมว่า การค้างชำระหนี้ของรัสเซียไม่เรื่องน่าประหลาดใจ และถ้าจะเกิดผลกระทบที่ร้ายแรง เราก็คงได้เห็นกันไปแล้ว อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้แปลว่า ภาคธุรกิจเล็กๆต่างๆจะไม่ประสบปัญหาที่รุนแรง
ทั้งนี้ ตั้งแต่เกิดการผนวกพื้นที่ไครเมียของประเทศยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014 นักลงทุนและบริษัทต่างๆ ได้จำกัดการทำธุรกิจกับรัสเซียอย่างมากเพราะไม่ต้องการโดนมาตรการลงโทษของสหภาพยุโรป
สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน Moody’s ประเมินว่า ผู้ถือตราสารหนี้ของพันธบัตรรัสเซียจะอาจขาดทุน 35% ถึง 65% หากรัสเซียไม่จ่ายหนี้
ทางออกของประเทศที่ไม่จ่ายหนี้?
หากประเทศใดค้างชำระหนี้อย่างเป็นทางการ ประเทศนั้นจะถูกตัดออกตลาดตราสารหนี้จนกว่าจะจ่ายหนี้ที่ค้างไว้สำเร็จ การทำเช่นนี้จะเพิ่มความมั่นใจให้แก่นักลงทุนและเสริมความเชื่อมั่นในตัวประเทศว่ามีความสามารถและความเต็มใจที่จะจ่ายหนี้ในอนาคต
ในกรณีของรัสเซีย รัฐบาลสามารถยืมเงินสกุลรูเบิลจากธนาคารภายในประเทศเพื่อมาซื้อตราสารหนี้ของตนเองได้ และหากเกิดการฟ้องร้องจากเจ้าหนี้ ตราสารหนี้ของรัสเซียมีข้อระบุตามกฎหมายที่อนุญาตให้เจ้าหนี้เลือกที่จะเจรจาเพื่อหาทางตกลงและให้เกิดการบังคับจ่ายในการยุติข้อพิพาทได้
หากเป็นกรณีปกติ ที่ไม่ได้เกิดในสภาวะสงคราม นักลงทุนและรัฐบาลที่ค้างชำระหนี้มักจะเจรจาเพื่อตกลงกัน ซึ่งผู้ถือตราสารหนี้มักจะได้รับตราสารหนี้ชุดใหม่ที่ค่าน้อยกว่าฉบับเก่าเพื่อเป็นการชดเชยในบางส่วน
- ที่มา: สำนักข่าวเอพี