กองทัพรัสเซียประกาศความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีปที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อการติดหัวรบนิวเคลียร์จากเรือดำน้ำขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่ล่าสุดของตน ขณะที่ ความตึงเครียดระหว่างมอสโกและประเทศตะวันตกจากกรณีการรุกรานยูเครนยังคงยกระดับขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
กองทัพรัสเซียเปิดเผยประเด็นความสำเร็จในครั้งนี้ออกมาในวันอาทิตย์ หรือไม่กี่วันหลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามในกฎหมายถอนรัสเซียออกจากการให้สัตยาบันในสนธิสัญญาห้ามการทดสอบนิวเคลียร์อย่างครอบคลุม หรือ CTBT (Comprehensive Nuclear Test Ban Treaty) โดยอ้างว่า เพื่อให้ฝ่ายตนมีความเท่าเทียมเสมอกับสหรัฐฯ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในแถลงการณ์ที่ออกมาในวันอาทิตย์ว่า เรือดำน้ำ Imperator Alexander III ยิงขีปนาวุธ Bulava ขณะเดินเรืออยู่ใต้น้ำในน่านน้ำทะเลขาว (White Sea) ของรัสเซีย โดยขีปนาวุธลูกดังกล่าวบินเข้าเป้าในภูมิภาคคัมชัตกา ทางตะวันออกไกลของประเทศตามแผนด้วย
ทั้งนี้ เนื้อความในแถลงการณ์นี้ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า การยิงทดสอบนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด
ข้อมูลจาก Federation of American Scientists ระบุว่า ตัวขีปนาวุธ Bulava นี้ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ถึง 6 หัว โดยขีปนาวุธแต่ละลูกมีความยาว 12 เมตรและสามารถบินได้ไกลถึงราว 8,000 กิโลเมตร
ในส่วนของเรือดำน้ำ Imperator Alexander III นั้น นี่เป็นเรือดำน้ำชั้นบอเรย์ (Borei Class) ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งมีความสามารถในการบรรทุกขีปนาวุธ Bulava ได้ถึง 16 ลูก และถูกวางตัวให้เป็นเรือรบหลักในกองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียในช่วงทศวรรษที่กำลังจะมาถึง
กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า การยิงทดสอบครั้งล่าสุดนี้เป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายสำหรับเรือดำน้ำนี้ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจประกาศผนวกเรือลำดังกล่าวเข้ากับกองเรือรบของประเทศอย่างเป็นทางการอีกที
ทางกระทรวงฯ ยังเปิดเผยด้วยว่า กองทัพเรือรัสเซียมีเรือดำน้ำชั้นบอเรย์ทั้งหมด 3 ลำประจำการอยู่ และมีอีกหนึ่งลำที่เพิ่งเสร็จสิ้นการทดสอบไป ขณะที่ มีอีก 3 ลำที่กำลังอยู่ในขั้นตอนประกอบอยู่
- ที่มา: เอพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น