กองทัพรัสเซียส่งสัญญาณอ่อนล้าขณะรุกเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของยูเครน

กองทัพรัสเซียเดินหน้าปฏิบัติการจู่โจมเมืองยุทธศาสตร์สำคัญทางภาคตะวันออกของยูเครน แต่กลับมีสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนล้าของเหล่าทหารของมอสโกออกมาด้วย ตามคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงเคียฟในวันจันทร์

วิตาลี บาราบาช หัวหน้าฝ่ายบริหารเมืองแอฟดีฟกา ของยูเครน เปิดเผยว่า กองกำลังกรุงเคียฟสามารถทำการต้านการโจมตีของรัสเซียจาก 4 ทิศไปแล้ว 15 ครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถือว่าต่ำกว่าสถิติ 60 ครั้งในช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้วอย่างมาก

บาราบาช ระบุว่า สถิติที่ต่ำลงขนาดนี้แสดงให้เห็นว่า ความพยายามของรัสเซียในการเข้ายึดเมืองแอฟดีฟกา “เริ่มหมดลม” แล้ว

สถาบัน Institute for the Study of War ที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกับบาราบาช ในรายงานที่เผยแพร่ออกมาในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ และระบุว่า “กองกำลังรัสเซียยังเดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อปิดล้อมเมืองแอฟดีฟกา ... แต่ก็ยังไม่ได้คืบหน้าไปมากมาย ท่ามกลางจังหวะการปฏิบัติการในบริเวณนี้ที่เริ่มจะแผ่วลง”

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างพยายามชิงความมีชัยในสนามรบเพื่อหวังปลุกชีพความหวังและขวัญกำลังใจของทหารตน โดยรัสเซียต้องการจะฝ่ากองกำลังยูเครนที่ต้านตนอยู่ที่แนวหน้าการรบในเขตคูเพียนสก์-ลีแมน ทางตะวันออกของประเทศให้ได้ ขณะที่ ยูเครนยืนยันว่า ฝ่ายตนยังสามารถตรึงกำลังไว้ได้อย่างดี

กองทัพยูเครนเปิดเผยในวันจันทร์ด้วยว่า รัสเซียทำการยิงขีปนาวุธ 6 ลูกและส่งโดรน 12 ลำเข้าโจมตีพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา โดยกองทัพอากาศสามารถยิงขีปนาวุธ 2 ลูกและโดรน 11 ลำตกลงไปได้

นอกจากนั้น รัสเซียยังยิงปืนใหญ่และทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เขตปกครองซาปอริซห์เชียด้วย ส่งผลให้อาคารที่พักอาศัยและโครงสร้างพื้นฐานหลายจุดได้รับความเสียหาย และมีสตรีสูงอายุรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ตามการเปิดเผยของทางการท้องถิ่น

ความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ

แจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยในวันจันทร์ว่า การให้การสนับสนุนยูเครนนั้นยังคงเป็น “เรื่องที่มีความสำคัญอันดับต้น ๆ” สำหรับสหรัฐฯ และยุโรป พร้อมย้ำว่า การช่วยหนุนยูเครนให้สามารถสู้รบกับการรุกรานของรัสเซียต่อไปนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก

เยลเลน ระบุในระหว่างการประชุมกับรัฐมนตรีคลังยุโรปที่ประเทศลักเซมเบิร์กด้วยว่า “เราไม่สามารถปล่อยให้ยูเครนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงครามได้ เนื่องจากเหตุผลทางเศรษฐกิจ ในขณะที่(ประเทศนี้)แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่จะประสบความสำเร็จในสนามรบได้แล้ว”

คำกล่าวของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ มีออกมา ขณะที่ รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมที่จะผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัติงบช่วยเหลือทางทหารมูลค่ากว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครนและอิสราเอลอยู่

• ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์และเอพี