รัสเซียเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ด้วยขีปนาวุธและโดรน มุ่งเป้าระบบโครงสร้างพื้นฐานยูเครนในวันพุธ สร้างความเสียหายให้กับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและทำให้ชาวยูเครนต้องหาที่หลบภัยที่สถานีรถไฟฟ้า ในเช้าวันคริสต์มาส ตามรายงานของเอพี
กองทัพรัสเซียโจมตีแหล่งพลังงานและเชื้อเพลิงของยูเครนด้วยขีปนาวุธที่ยิงทางอากาศ ภาคพื้น และทางทะเล 78 ลูก และโดรนชาเฮดของอิหร่าน 106 ลำ ตามการเปิดเผยของกองทัพอากาศยูเครน ซึ่งกองทัพยูเครนสามารถสกัดขีปนาวุธ 59 ลูก โดรน 54 ลำ และมีรายงานโดรนอีก 52 ลำถูกแทรกแซงระบบก่อนโจมตีเป้าหมาย
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า “(ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิเมียร์) ปูตินจงใจเลือกวันคริสต์มาสในการโจมตี จะมีอะไรที่ไร้มนุษยธรรมไปมากกว่านี้ได้อีก?” และว่า “พวกเขา(รัสเซีย)เดินหน้าต่อสู้เพื่อให้เกิดไฟฟ้าดับในยูเครน”
ในการโจมตีเมื่อวันพุธ มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายที่เขตปกครองดนิโปร รองนายกรัฐมนตรียูเครน โอเล็กซี คูเลบา เผยผ่านสื่อเทเลแกรม ว่าระบบทำความร้อนได้รับผลกระทบในอาคารที่พักอาศัย 155 แห่ง และประชาชนในเขตปกครองคาร์คิฟราว 500,000 คนใช้ชีวิตโดยปราศจากเครื่องทำความร้อน
กองทัพอากาศยูเครน ระบุว่า ขีปนาวุธหลายลูกได้ยิงไปที่เขตปกครองคาร์คิฟ ดนิโปร และโพลตาวา ทางตะวันออกของประเทศ ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน อันดรี ไซบีฮา กล่าวว่าขีปนาวุธรัสเซีย 1 ลูกผ่านน่านฟ้าของมอลโดวาและโรมาเนียด้วย
ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานยูเครน เฮอร์แมน ฮาลุชเชนโก กล่าวว่า รัสเซีย “โจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานครั้งใหญ่” อีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ด้านไฟฟ้าได้ใช้มาตรการที่จำเป็นในการจำกัดการใช้ไฟฟ้า “ทันทีที่สถานการณ์ด้านความมั่นคงเอื้ออำนวย เจ้าหน้าที่ด้านพลังงานจะเข้าไปตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น”
ส่วนทางยูเครนเอเนอร์โก ผู้ให้บริการด้านพลังงานของรัฐบาลยูเครน ออกมาตรการป้องกันไฟฟ้าดับทั่วประเทศ เนื่องจาก “การโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่” ที่ทำให้ไฟฟ้าดับในหลายเขตที่กรุงเคียฟ
ด้านบริษัท DTEK ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดของยูเครน ระบุว่า รัสเซียโจมตีหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนเมื่อเช้าวันพุธ และถือเป็นการโจมตีครั้งที่ 13 แล้วในปีนี้ โดย แม็กซิม ทิมเชนโก ซีอีโอของ บริษัท DTEK โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า “การทำลายแสงสว่างและความอบอุ่นต่อผู้รักสันติภาพหลายล้านคนที่กำลังเฉลิมฉลองคริสต์มาสถือเป็นการกระทำที่เลวทรามและชั่วร้ายที่ต้องได้รับการตอบโต้”
นอกจากนี้ โอเลห์ ซีนีฮูบอฟ ผู้ว่าการเขตปกครองคาร์คิฟ เผยว่ามีรายงานงานการโจมตีอีกอย่างน้อย 7 จุดทำให้เกิดไฟไหม้ทั่วเมือง และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 3 ราย ส่วนนายกเทศมนตรีคาร์คิฟ อิฮอร์ เทเรคอฟ กล่าวว่า “คาร์คิฟตกอยู่ภายใต้การโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ การระเบิดหลายต่อหลายครั้งเกิดขึ้นทั่วเมือง และยังมีขีปนาวุธวิถีโค้งบินมาในทิศทางของเมือง โปรดอยู่ในที่ปลอดภัย”
อีกด้านหนึ่งในรัสเซีย มีรายงานผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 คน หลังจากเศษซากโดรนที่ติดไฟร่วงลงมาในห้างสรรพสินค้า ที่เมืองวลาดิคาฟคาซ เซอร์เกย์ เมนยาโล ผู้ว่าการสาธารณรัฐนอร์ทออสซีเชีย-อาลาเนีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย กล่าวว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าการระเบิดเกิดขึ้นด้านนอกอาคารห้างสรรพสินค้าอลาเนียในช่วงเช้าวันพุธ
ด้านอเล็กซานเดอร์ คินห์สไตน์ ผู้ว่าการในแคว้นเคิร์สก กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายจากการระเบิดที่เมืองลกอฟ
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุในรายงานเมื่อวันพุธ ว่าได้ยิงโดรนยูเครน 59 ลำตกในช่วงข้ามคืน ที่เบลโกรอด โวโรเนซห์ เคิร์ก บรีแยนสก์ แทมบอฟ รวมทั้งเหนือทะเลอะซอฟด้วย แต่ไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในนอร์ทออสซีเชีย-อาลาเนียแต่อย่างใด
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น