กระทรวงกลาโหมอังกฤษเปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า กองกำลังเนชันแนลการ์ด “รอสกวาร์เดีย” ของรัสเซียกำลังหาทางเพิ่ม “ทรัพยากรและบุคลากร” ของตน เนื่องจาก “ปัญหาความวุ่นวายโกลาหล” ของหน่วยงานความมั่นคงภายในของประเทศที่เกิดขึ้นจากสงครามในยูเครน
รายงานประจำวันของกระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุด้วยว่า มีสมาชิกบางส่วนขององค์กรทหารรับจ้างแวกเนอร์ย้ายมาอยู่ใต้สังกัด “รอสกวาร์เดีย” ตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนดอแนตสก์ “กองพันสาธารณรัฐประชาชน ‘วอสตอก’” ย้ายตามมาในเดือนนี้
รายงานนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า กรุงมอสโกได้พยายามทำการสลาย “กลุ่มคาสคาด” ที่เป็นกลุ่มที่จัดตั้งในเขตปกครองดอแนตสก์ของยูเครนซึ่งแยกตัวออกไปดำเนินปฏิบัติการเองและมีความเชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการโดรน พร้อมดึงบางส่วนของกลุ่มนี้ให้มาขึ้นตรงกับกองกำลังเนชันแนลการ์ด “รอสกวาร์เดีย” ด้วย
อังกฤษให้ความเห็นว่า การเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของรัสเซีย รวมทั้งการที่มอสโกเพิ่งจัดสรรอาวุธหนักให้แก่กองกำลังเนชันแนลการ์ดนี้เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา “น่าจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการรบของรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญ”
รัสเซียเดินหน้าโจมตีทางอากาศ
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่เมืองโพครอฟสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ซึ่งอยู่ห่างจากทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองดอแนตสก์ราว 80 กิโลเมตร ตามการเปิดเผยของ วาดิม ฟิลาชกิน ผู้ว่าการที่ดูแลพื้นที่เขตปกครองดอแนตสก์ที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกรุงเคียฟ
ฟิลาชกิน ระบุในโพสต์ทางแอปเทเลแกรมว่า มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว 11 คน โดย 5 คนนั้นเป็นเด็ก พร้อมกล่าวว่า การโจมตีด้วยขีปนาวุธ S-300 ของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า กองกำลังมอสโกกำลัง “พยายามสร้างความเจ็บปวดสูญเสียมากที่สุดเท่าที่จะมากได้” ให้กับยูเครนอยู่
ส่วนที่เขตปกครองคาร์คิฟ สำนักงานอัยการของเขตปกครองนี้เปิดเผยหลักฐานที่ชี้ว่า รัสเซียอาจใช้ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเพื่อโจมตียูเครน
ดมีโทร ชูเบนโก โฆษกของสำนักงานอัยการของเขตปกครองคาร์คิฟ กล่าวว่า มีการตรวจสอบชิ้นส่วนซากขีปนาวุธที่ถูกยิงใส่คาร์คิฟเมื่อวันที่ 2 มกราคมและพบว่า ชิ้นส่วนที่ว่ามีความแตกต่างทั้งด้านเทคนิคและรูปลักษณ์เมื่อเทียบกับขีปนาวุธของรัสเซีย
ชูเบนโกไม่ได้เปิดเผยรุ่นของขีปนาวุธเกาหลีเหนือที่มีการกล่าวอ้างถึงแต่แสดงเศษซากขีปนาวุธที่ว่าให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมกล่าวว่า “ขีปนาวุธ[ที่มีการตรวจสอบนี้]คล้าย ๆ กับของเกาหลีเหนือ”
มอสโกอวดศักยภาพการผลิตโดรน
สื่อ TASS ของรัสเซียรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า อันเดรย์ เบลูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 เปิดเผยว่า รัสเซียมีแผนที่จะผลิตโดรนให้ได้ปีละกว่า 32,000 ลำภายในปี 2030 โดยจำนวนนี้คิดเป็น 70% ของโดรนในคลังของประเทศ
เบลูซอฟ กล่าวด้วยว่า รัสเซียจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงินให้กับโครงการระดับชาตินี้ด้วยงบ 7,660 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยระบุว่า จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมภายในเดือนนี้
ทั้งรัสเซียและยูเครนต่างกำลังเร่งเพิ่มกำลังการผลิตโดรนของตนอย่างเต็มที่ เนื่องจากอากาศยานไร้คนขับนี้เป็นอาวุธสำคัญที่ต่างฝ่ายต่างใช้งานอย่างหนักนับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นมาเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น