รัสเซียเดินหน้าการโจมตีเมืองท่า มาริอูโพล ของยูเครนที่ถูกปิดล้อมมาหลายสัปดาห์อย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชี้ว่า เมืองของตนได้รับความเสียหายจนจะเหลือแค่เพียง “เถ้าถ่านของผืนดินที่ดับสิ้น” หลังเพิ่งถูกโจมตีด้วยระเบิดลูกใหญ่อีก 2 ลูก ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
สถานการณ์ในเมืองมาริอูโพล ซึ่งมีประชากรอยู่ 400,000 คนก่อนเกิดสงครามนั้น ถูกจัดให้เป็นเหตุฉุกเฉินด้านมนุษยธรรมที่เร่งด่วนที่สุดแล้ว โดยในขณะนี้ เชื่อกันว่า ยังมีประชาชนนับแสนคนที่ยังคงติดอยู่เมืองนี้และเผชิญการยิงโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีปัญหาขาดอาหาร น้ำ พลังงานและระบบทำความร้อนด้วย
ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุในระหว่างการกล่าวปราศรัยผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ต่อหน้ารัฐสภาอิตาลีในวันอังคารว่า “เวลานี้ ไม่มีอะไรเหลือที่นั่น (เมืองมาริอูโพล) แล้ว”
สภาเมืองมาริอูโพลไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโจมตีรอบล่าสุด ซึ่งทางการยูเครนอ้างว่า ได้ทำลายโรงละคร โรงเรียนศิลปะ และอาคารสาธารณะอื่นๆ ขณะที่ ผู้หญิงและเด็กจำนวนหลายร้อยคนที่ใช้ชั้นใต้ดินของสิ่งก่อสร้างเหล่านั้นเป็นที่หลบภัย ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังทั้งหลายทันที
เนื่องจากไม่มีผู้สื่อข่าวอิสระเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของเมืองที่ยังอยู่ในการควบคุมของยูเครนเป็นเวลากว่าสัปดาห์แล้ว จึงไม่มีใครสามารถตรวจสอบและรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม สภาเมืองมาริอูโพลออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า “เป็นอีกครั้งที่มีความชัดเจนว่า (กองทัพรัสเซีย) ไม่ได้สนใจในเมืองมาริอูโพล แต่พวกเขาต้องการจะถล่มเมืองนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง และให้เหลือเพียงเถ้าถ่านของผืนดินที่ดับสิ้นแล้ว”
ทั้งนี้ รัสเซียยังคงปฏิเสธว่า ตนพุ่งเป้าโจมตีไปยังพลเรือน ขณะที่ ยูเครนกล่าวว่า กรุงมอสโกทำการสกัดกั้นความพยายามจากโลกภายนอกที่จะส่งความช่วยเหลือ ทั้งอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ มาให้พลเรือนในเมืองนี้ รวมทั้งปิดกั้นไม่ให้รถโดยสารนำพาผู้คนออกจากเมืองด้วย
รองนายกรัฐมนตรียูเครน ไอรีนา เวเรสช์ชัค กล่าวในวันอังคารว่า ยูเครนต้องการให้รัสเซียเปิดเส้นทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับพลเรือน พร้อมยืนยันว่า กองทัพยูเครนจะเดินหน้าปกป้องเมืองมาริอูโพลต่อไป โดยจะไม่ยอมรับคำขาดใดๆ และว่า สิ่งที่รัสเซียเสนอนั้นคือ “การให้ยอมจำนนและยกธงขาว และนี่คือการบีบบังคับ และคำโกหก” ต่างหาก
ก่อนหน้านี้ รัสเซียยื่นข้อเรียกร้องให้เมืองมาริอูโพลยอมจำนวนภายในรุ่งสางของวันจันทร์ แต่กรุงเคียฟปฏิเสธที่จะทำตาม
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมยูเครนว่า กองกำลังยูเครนสามารถผลักดันการรุกคืบของกองทัพรัสเซียที่มุ่งเข้ายึดครองเมืองท่าแห่งนี้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันว่า ยูเครนสามารถชิงพื้นที่เขตมาคารีฟ ซึ่งอยู่ชานเมืองกรุงเคียฟและมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์กลับมาได้แล้วในวันอังคาร
อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมยูเครนยอมรับว่า กองทัพรัสเซียสามารถยึดพื้นที่บางส่วนของเขต บูชา ฮอสโตเมล และเอียร์พิน ไปได้
- ที่มา: รอยเตอร์และรอยเตอร์
