ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency -- IAEA) เตือนอีกครั้งว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริซห์เชียของยูเครนที่อยู่ในพื้นที่ที่กองกำลังรัสเซียควบคุมอยู่ กำลังอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูงมาก หลังเกิดเหตุพลังงานที่จ่ายเข้ามาหยุดชะงักจนต้องมีการเร่งเปลี่ยนมาใช้เครื่องปั่นไฟที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นการฉุกเฉิน
ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการ IAEA เปิดเผยว่า นี่เป็นครั้งที่ 7 แล้วที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ประสบภาวะขาดพลังงานเพื่อใช้ควบคุมการทำงานของเตาปฏิกรณ์ปรมาณู นับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเกือบ 15 เดือนก่อน โดยระบุในข้อความที่ทวีตออกมาด้วยว่า “สถานการณ์ด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้มีความเปราะบางอย่างสุดขีด”
และแม้จะมีการหาไฟฟ้ามาป้อนได้แล้ว กรอสซี ขอร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิงโจมตีเข้ามาใกล้ ๆ โรงไฟฟ้าแห่งนี้โดยด่วน
ในเวลานี้ IAEA ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์แห่งนี้แล้ว แม้ว่าจะมีการปิดเตาปฏิกรณ์ปรมาณูทั้งหมด 6 ตัวไป เพื่อดูแลกรณีที่ไฟฟ้าซึ่งถูกจ่ายมาดูแลระบบหล่อเย็นอันเป็นมาตรการด้านความปลอดภัยของเตาทั้งหมดเกิดหยุดชะงักขึ้นมา แตเจ้าหน้าที่ก็ย้ำว่า เครื่องปั่นไฟฉุกเฉินที่มีอยู่และสามารถช่วยให้ระบบหล่อเย็นทำงานได้ 10 วัน ก็ไม่ได้เป็นระบบที่ไว้วางใจได้เสียทีเดียว
ทั้งนี้ การต่อสู้ระหว่างยูเครนและรัสเซียที่รอบ ๆ โรงไฟฟ้านี้ โดยเฉพาะด้วยการยิงกระสุนปืนใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายฝ่ายกลัวว่า จะเกิดหายนะแบบเดียวกับที่เกิดกับโรงไฟฟ้าเชอร์โนบิล ทางตอนเหนือของยูเครน เมื่อปี ค.ศ.1986 ซึ่งเป็นมหันตภัยด้านนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดของโลก
รัสเซียยิงถล่มเขตปกครองดนิโปรเพตรอฟสก์
เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยในวันจันทร์ว่า กองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธและส่งโดรนจำนวนหนึ่งเข้ามาโจมตีเขตปกครองดนิโปรเพตรอฟสก์ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารหลายแห่งได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน
เซอร์ฮีย์ ลีแซก ผู้ว่าการเขตดนิโปรเพตรอฟสก์ ระบุในโพสต์ทางแอปเทเลแกรมว่า พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีครั้งนี้มีทั้งอาคารที่พักอาศัยของประชาชนและพาหนะต่าง ๆ ด้วย
กองทัพอากาศยูเครน โพสต์ข้อความทางแอปเทเลแกรมที่ระบุว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธ 16 ลูกและส่งโดรนชาเฮดของอิหร่านจำนวน 20 ลำเข้ามาโจมตีในครั้งนี้ โดยระบบป้องกันทางอากาศของยูเครนสามารถยิงขีปนาวุธ 4 ลูกและโดรนทั้งหมด 20 ลำตก
เครื่องบิน เอฟ-16 ไม่ใช่ “ตัวเปลี่ยนเกม”
แฟรงค์ เคนดัลล์ รัฐมนตรีว่าการทบวงกองทัพอากาศสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ “จะใช้เวลาอีกหลายเดือนเป็นอย่างเร็ว” ก่อนจะตัดสินใจนำส่งเครื่องบินรบ เอฟ-16 ให้กับยูเครน แต่ยอมรับว่า เครื่องบินรบรุ่นดังกล่าวจะช่วยให้ชาวยูเครนมีสรรพกำลังในส่วนที่ไม่มีอยู่ในเวลานี้ “แต่มันก็จะไม่ได้เป็นตัวเปลี่ยนพลิกเกมใด ๆ” พร้อมชี้ว่า ความสามารถของระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศก็ “ไม่เคยเป็นปัจจัยชี้ขาดมาก่อนเลย” ด้วย
อย่างไรก็ดี เคนดัลล์ ยอมรับว่า นี่เป็นเวลาที่ต้องมีการคิดทบทวนประเด็นการส่งมอบอาวุธยุทโธปกรณ์นี้แล้ว โดยระบุว่า “เราน่าจะเริ่มคิดมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่มันก็มีประเด็นที่มีความสำคัญมากกว่าที่ต้องพิจารณาอยู่ก่อน”
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมจากประเทศในภูมิภาคยุโรปตอนเหนือที่จัดขึ้นที่โปแลนด์ในวันจันทร์แสดง “การสนับสนุนอย่างสูง” ต่อแผนการฝึกอบรบนักบินยูเครนให้ขับเครื่องบิน เอฟ-16 ที่สหรัฐฯ ประกาศออกมา เช่น โทรเอลส์ ลุนด์ พูลเซน รัฐมนตรีกลาโหมเดนมาร์ก ที่ทวีตข้อความออกมาว่า “[ขอ]สนับสนุนเต็มที่สำหรับเป้าหมายการฝึกอบรมนักบินเอฟ-16 ให้กับยูเครน”
เจ้าหน้าที่ด้านทูตอาวุโสหลายรายของรัสเซีย กล่าวในวันจันทร์ว่า การส่งมอบเครื่องบินรบ เอฟ-16 ให้กับยูเครนจะทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของนาโต้ในความขัดแย้งนี้ แต่จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อเป้าหมายทางทหารของรัสเซียเป็นอันขาด
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี