ความรักนั้นยากที่จะตามหา แต่เมื่อได้มาและครองรักกันมาสักระยะ แน่นอนว่าต้องคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาว่า เมื่อไหร่เราจะมาเป็นเกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกันสักที
แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ มี 8 คำถามที่สำคัญกว่า Do you Marry Me? ซึ่งฟังดูแล้ว อาจเหมือนกับการสัมภาษณ์งาน แต่มีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ในชีวิตคู่มาฝากกัน
1. คุณมีภาระหนี้อะไรบ้าง? – ฟังดูแล้วเหมือนเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร แต่จากการสำรวจของศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Center) เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ระบุว่า เรื่องเงินๆทองๆ เป็น 1 ใน 5 ปัญหาสำคัญของชีวิตคู่
นอกจากนี้การเริ่มต้นชีวิตคู่ จะตามมาด้วยการลงทุนขนาดใหญ่ในการขยายครอบครัว อย่างการซื้อบ้าน เตรียมเงินออมให้บุตรในอนาคต ดังนั้น ถามเสียก่อนจะตอบตกลงปลงใจ ว่าคนรักขอบคุณมีภาระหนี้อะไรบ้าง? อย่างหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ รวมทั้งหนี้ระยะสั้นอย่างค่าบัตรเครดิต หรือหนี้นอกระบบ เพื่อปูทางสู่การวางแผนทางการเงินของชีวิตคู่ต่อไป
2. คุณมีพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไร? – บางคนรักการออมเพื่อความมั่นคงในชีวิต แต่บางคนการเปย์หรือจับจ่ายออกไป จะช่วยสร้างการผ่อนคลายได้มากกว่า หากแนวทางการใช้เงินของคุณและคนรักไปกันคนละทาง ก็อาจนำไปสู่ปัญหาในอนาคตได้ ดังนั้น เริ่มต้นคุยกันเสียแต่วันนี้ เพื่อหาทางออกทางการเงินที่พึงพอใจทั้งสองฝ่ายได้
3. คุณโอเคกับการทำความสะอาดบ้านไหม? – เข้าสู่โหมดพ่อบ้านใจกล้ากันแล้ว แม้อาจเป็นเรื่องในบ้านที่ดูเหมือนจะไม่สลักสำคัญ แต่ในการสำรวจของ Pew Research ระบุว่าชาวอเมริกันร้อยละ 62 บอกว่า การแบ่งงานบ้านกันทำเป็นสิ่งสำคัญของชีวิตคู่ที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น แบ่งกันไว้แต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เกิดปัญหาในภายหลัง
4. คุณรู้สึกอย่างไรกับความรกรุงรัง? – หากคู่รักไม่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมาก่อนจะลั่นระฆังวิวาห์ อาจจะไม่ทราบระดับความรกรุงรังในบ้านที่แต่ละฝ่ายรับได้ และจะมีคนอยู่ 2 ประเภท ที่เป็นพวกที่ชอบเก็บของทุกอย่าง กับพวกที่ชอบทิ้งทุกอย่าง ดังนั้น ควรตรวจสอบตัวเองและคนรักว่ามีพฤติกรรมแบบไหน ไปในทิศทางเดียวกันได้หรือเปล่า
5. คุณใช้เวลากับสื่อสังคมออนไลน์หรือเทคโนโลยีอื่นๆนานแค่ไหน? – เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญในยุคเทคโนโลยีอย่างมาก การถามไปตรงๆอาจไม่เพียงพอ ต้องลองสังเกตพฤติกรรมด้วย เพราะบางคนอาจเพลิดเพลินกับการเล่นเฟสบุ๊กหรือวิดีโอเกมได้ทั้งวัน ขณะที่บางคนอาจชอบการเดินป่า ตั้งแคมป์ ดำน้ำดูปะการัง และกิจกรรมกลางแจ้งมากกว่า เพื่อตัดปัญหาความขัดแย้งในชีวิตคู่ ที่อาจเคยได้ยินว่า Life Style ไม่ตรงกัน ควรหันหน้ามาถามไถ่ถึงวิถีชีวิตในเวลาว่างของคนรักบ้าง
6. คุณอยากมีลูกไหม? – คำถามสำคัญสำหรับชีวิตคู่ คือ ทายาทสืบสกุล บางครั้งอาจมาจากแรงกดดันของครอบครัว บางครั้งอาจมาจากความต้องการของตัวเอง ซึ่งคุณและคนรักต้องคุยกันให้ชัดเจน ลงรายละเอียดไปไม่ใช่แค่อยากมีหรือไม่อยากมี แต่ต้องถามต่อไปว่า ถ้าอยากมี จะมีกี่คน?และจะมีลูกเมื่อไหร่?
7. คุณเคยถูกจับหรือเปล่า? และถ้าเคย ... คุณต้องคดีอะไร? – นี่อาจจะดูชัดเจนและค่อนข้างกระอักกระอ่วนในการถาม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ยืนยันว่าคุณอาจต้องพบกับความประหลาดใจเมื่อเอ่ยปากออกไปแน่นอน และอย่าลืมว่าไม่เคยไม่ใช่ไม่มี คุณอาจถามต่อไปได้ถึงพฤติกรรมอื่นๆ เช่น การพนัน การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาเสพติด หรือการใช้ความรุนแรง เพราะนั่นอาจช่วยทำนายทิศทางของชีวิตคู่ในอนาคตได้
8. ไกลแค่ไหนคือใกล้? คุณต้องการเวลาส่วนตัวแค่ไหนถึงจะมีความสุข? – คำกล่าวที่ว่า Happy Wife, Happy Life อาจจะจริงแค่ส่วนหนึ่งในยุคนี้ จนกระทั่งมีคำพูดของนักแสดงดังจากฮอลลีวู้ด วิล สมิธ ที่กล่าวถึงการใช้ชีวิตคู่กับภรรยา ใจความตอนหนึ่งระบุว่า ความคิดที่ว่าคุณมีหน้าที่ทำให้คนรักมีความสุขและคาดหวังให้คนรักทำให้คุณมีความสุขเป็นสิ่งที่ไม่แท้จริงและไม่ยุติธรรม เพราะไม่มีใครทำให้คุณมีความสุขได้เท่ากับตัวคุณเอง
บางคนชอบที่อยู่กับคนรักตลอดเวลาแล้วมีความสุข ขณะที่บางคนชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับตัวเองมากๆ การพูดคุยเพื่อหาจุดสมดุลของระยะห่างของความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่ต้องจัดการให้ดีก่อนจะตกลงปลงใจ
แม้ 8 คำถามนี้จะค่อนข้างน่ากระอักกระอ่วนใจในการจะเอ่ยปากออกมา แต่หากเลือกใช้คำถามอย่างมีศิลปะก็อาจลดความขัดแย้งในบทสนทนาได้
แต่หากพยายามอย่างเต็มที่แล้วยังไม่สามารถเปิดปากอีกฝ่ายออกมาได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ มองว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนบางอย่าง เพราะหากคู่รักของคุณหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามใดคำถามหนึ่งแล้ว ขอแนะนำให้ห่างกันสักพัก หรือหนักเข้าก็อาจต้องใส่เกียร์ R ถอยดีกว่า
