โควิดสายพันธุ์โอมิครอนจัดเป็นสายพันธุ์ที่มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและคิดเป็นจำนวนราว 95% ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมดทั่วสหรัฐฯ หลายคนจึงตั้งคำถามว่าการนับตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังถือเป็นมาตรฐานการติดตามการระบาดของโคโรนาไวรัสที่สะท้อนถึงสถานการณ์จริงได้ดีเหมือนก่อนหรือไม่?
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วสหรัฐฯเฉลี่ยราว 480,000 รายต่อวัน ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุขบางส่วนเลือกที่จะให้ความสนใจกับยอดผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลแทน เนื่องจากสามารถสะท้อนความรุนแรงของการระบาดได้แม่นยำกว่า
ยอดล่าสุดของผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐฯ ที่ต้องนอนโรงพยาบาลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ประมาณ 14,800 ราย ซึ่งสูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 63% ส่วนยอดผู้เสียชีวิตในช่วงเวลาสองสัปดาห์ที่ผ่านมาในสหรัฐฯ อยู่ที่ 1,200 คนต่อวันโดยเฉลี่ย
ทั้งนี้ ทั้งยอดผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลยังต่ำกว่าในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อนหน้านี้ซึ่งในขณะนั้น ชาวอเมริกันจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีน ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจึงคาดว่าสถานการณ์ปัจจุบันสะท้อนถึงประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิดที่สามารถลดความรุนแรงของอาการและจำนวนผู้เสียชีวิตได้
นพ.แอนโธนี เฟาชี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อคนสำคัญของสหรัฐฯ บอกผ่านรายการของสำนักข่าว ABC ว่า ขณะนี้ ผู้ติดเชื้อโคโรนาไวัรสบางรายมีอาการเพียงเล็กน้อยและมีบางส่วนที่ไม่มีอาการใด ๆ เลย ดังนั้น “การหันมาสนใจตัวเลขของผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลจึงตรงกับสถานการณ์กว่ายอดรวมของผู้ติดเชื้อ”
การนับผู้ติดเชื้อในแต่ละวันจัดว่าไม่ใช่มาตรฐานการเฝ้าระวังการระบาดที่สมบูรณ์แบบ เพราะยอดผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรายงานนั้นเป็นผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันโดยห้องปฏิบัติการ (laboratory-confirmed case) และไม่นับผู้ที่ตรวจพบเชื้อเองที่บ้าน ดังนั้น ยอดข้างต้นจะต่ำกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงมาก และชาวอเมริกันบางส่วนก็เลือกที่จะตรวจโควิดเองที่บ้านเนื่องจากไม่ต้องการไปต่อคิวที่ยาว
เหตุผลอีกข้อแสดงถึงตัวเลขผู้เชื้อซึ่งในแต่ละวันนั้นมีความแตกต่างกันมาก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ รายงานว่ามีคนติดโควิดใหม่แล้วถึง 1 ล้านคน ยอดดังกล่าวอาจสะสมมาหลายวัน เนื่องจากช่วงวันหยุดเทศกาลก่อให้เกิดความล่าช้าในการรายงานผล เพราะฉะนั้น ยอดเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อรายสัปดาห์จึงมีความแม่นยำกว่า
อย่างไรก็ตาม เอพีระบุว่า การดูยอดผู้ป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ตอบโจทย์เลยทีเดียวเพราะผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลบางคนอาจล้มป่วยจากโรคอื่น ๆ และบังเอิญมีเชื้อโควิดอยู่ในร่างกายด้วย
นพ. เอริก โทโพล หัวหน้า สถาบัน Scripps Research Translational Institute กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ควรล้มเลิกการนับจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่ควรตระหนักว่ายอดผู้ติดเชื้อเป็นเพียงการวัดจำนวนเคสที่เกิดขึ้นจริงแค่บางส่วน
อาลี ม็อกแดด อาจารย์ด้านสถิติสาธารณสุขที่ University of Washington ในซีแอตเทิล บอกว่าประโยชน์หลักของการนับผู้ติดเชื้อนั้นสามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่เห็นความรุนแรงของการระบาดในแต่ละพื้นที่ได้ ประชากรในพื้นที่นั้น ๆ เองจึงสามารถวางแผนการดำเนินชีวิตและการระมัดระวังตัวที่เหมาะได้อีกด้วย
นอกจากนี้ อาจารย์ผู้นี้ยังบอกอีกด้วยว่า ทุกหนึ่งเคสของผู้ที่ติดเชื้อที่ตรวจพบในสหรัฐฯ จะมีอีกสองเคสที่ไม่มีการตรวจเจอ ดังนั้น หากใครคิดว่าการตรวจโคโรไวรัสในจำนวนประชากรไม่ถือเป็นมาตรการควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิภาพ นั่นก็เป็นเพราะสหรัฐฯยังไม่เคยมีวิธีการเฝ้าสังเกตการระบาดที่สม่ำเสมอมาตั้งแต่ต้น
เขาเปรียบเทียบด้วยว่า การเลิกรับรู้ว่า ขณะนี้มีคนติดโควิดเพิ่มขึ้นหรือลดลง คือการออกบินโดยไม่เห็นว่ามีอะไรบ้างอยู่ข้างหน้า
- ที่มา: สำนักข่าวเอพี