ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในงานแถลงข่าวประจำปีว่า ข้อกล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่นำไปสู่การลงมติถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง เป็นข้อหาที่เลื่อนลอย
ผู้นำรัสเซียกล่าวในวันพฤหัสบดี หนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนอเมริกันผ่านญัตติขอถอนถอนโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเขายังคาดหวังว่าผู้นำสหรัฐฯ จะยังคงรักษาสถานะเป็นประธานาธิบดีต่อได้
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า พรรคการเมืองสหรัฐฯ ที่แพ้การเลือกตั้งครั้งก่อน ยังคงต่อสู้ ด้วยวิธีการอื่น
เมื่อคืนวานนี้ที่สหรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมเเครตคุมเสียงข้างมาก ผ่านญัตติ ขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ ในข้อกล่าวสองข้อคือ ใช้อำนาจในทางที่ผิดและขัดขวางการทำงานของรัฐสภา คาดว่าอีกมานานนี้วุฒิสภาจะรับเรื่องต่อ เพื่อพิจารณาว่าโดนัลด์ ทรัมป์จะถูกถอดถอนหรือไม่
ในส่วนของข้อตกลงด้านอาวุธ ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะทำความตกลงสนธิสัญญา START ฉบับใหม่กับสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้รับทราบท่าทีของอเมริกาต่อข้อเสนอของรัสเซีย
ผู้นำรัสเซียมักใช้งานแถลงข่าวประจำปี เป็นโอกาสสร้างภาพลักษณ์ด้านบวกสำหรับตนและย้ำถึงสถานะของประเทศที่มั่นคง ภายใต้การนำของเขา นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีปูตินยังได้ กล่าวถึงประเด็นโลกอื่นๆ เขากล่าวว่าปัญหาภาวะโลกร้อนกำลังกระทบรัสเซีย
ประธานาธิบดีปูตินกล่าวว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในรัสเซียรวดเร็วกว่าค่าเฉลี่ยโลกสองเท่า โดยเฉพาะเมืองของรัสเซียในเขตอาร์คติก
และบอกด้วยว่ารัสเซียปฏิบัติตาม “ข้อตกลงปารีส” ด้านภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามเขากล่าวว่ายังคงมีหลายปัจจัยที่ยากจะคาดเดาและยังไม่มีความชัดเจนเรื่องภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ
เรื่องความเป็นปึกแผ่นของประเทศเป็นประเด็นสำคัญของปีนี้เช่นเคย หลังจากที่เกิดการประท้วงในหลายเมืองในช่วงฤดูร้อน ท่ามกลางการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตยมากขึ้น
การเดินขบวนครั้งนั้นมีชนวนมากจาก การถูกห้ามลงลือกตั้งของผู้สมัครอิสระ ในการแข่งเป็นตัวแทนประชาชนระดับท้องถิ่น
นอกจากนี้ เศรษฐกิจของรัสเซียยังคงถูกแรงกดดันจากมาตรการลงโทษของโลกตะวันตก หลังจากที่รัสเซียผนวกเเคว้นไครเมียในยูเครนเป็นของตน
และการที่ราคาน้ำมันที่ลดลงยังปั่นทอนรายได้ส่งออกของรัสเซียอีกด้วย
ทั้งนี้ในงานแถลงข่าวผู้นำรัสเซีย กล่าวว่าไม่มี “กองกำลังต่างชาติ” อยู่ในพื้นที่สองเมืองใหญ่คือ ดอนเนต์สค์ และลูฮานส์ค ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
การต่อสู้ในยูเครนปะทุขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน หลังการผนวกแคว้นไครเมียเป็นของรัสเซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 13,000 คน
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ซึ่งอยู่ในอำนาจบริหารประเทศมา 20 ปี
กล่าวถึงความสำเร็จทางเศรษฐกิจ โดยระบุว่ารัสเซียเป็นผู้ส่งออกธัญพืชอันดับหนึ่งของโลกแซงหน้าสหรัฐฯ และเเคนาดา
ในงานแถลงข่าวครั้งนี้ เป็นการแถลงข่าวประจำปีครั้งที่ 15 ของประธานาธิบดีปูติน และมีนักข่าวที่ได้รับอนุญาตร่วมงานทั้งหมด 1,895 คน
ครั้งที่น่าจดจำที่สุดคือเมื่อ 11 ปีก่อนที่ผู้นำรัสเซียให้เวลาตอบคำถามยาวนาน โดยงานครั้งนั้นใช้เวลาทั้งหมด 4 ชั่วโมง 40 นาที สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือการแสดงทัศนะของผู้นำรัสเซียที่ส่งสัญญาณไปถึงสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในโลก