ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ พบปะกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในการหารือนอกรอบจากการประชุมกลุ่ม จี-20 ที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์
โดยในการแถลงต่อผู้สื่อข่าวระหว่างการหารือทวิภาคี ผู้สื่อข่าวได้ถาม ปธน.ทรัมป์ ว่าจะพูดกับ ปธน.ปูติน หรือไม่ว่าไม่ให้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ บอกว่า "แน่นอน" จากนั้นได้หันไปหาผู้นำรัสเซีย แล้วกล่าวแบบทีเล่นทีจริงว่า "อย่าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ" และยังได้ย้ำประโยคเดิมพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ ปธน.ปูตินด้วย
อย่างไรก็ตาม ท่าทีดังกล่าวอาจตีความได้ว่า ปธน.ทรัมป์ ไม่จริงจังกับประเด็นเรื่องการแทรกแซงของรัสเซียมากนัก แม้ว่าหน่วยงานข่าวกรองสามแห่งของสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจว่ารัสเซียมีส่วนก้าวก่ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 3 ปีที่แล้วจริง
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ และ ปธน.ปูติน ได้หารือกันในประเด็นความสัมพันธ์ของสองประเทศ และตกลงที่จะหารือต่อไปในเรื่องข้อตกลงควบคุมอาวุธ ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ ระบุว่าควรจะรวมจีนเข้าไว้ด้วย
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังได้หารือในเรื่องของ อิหร่าน ซีเรีย เวเนซุเอล่า และยูเครน
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ ได้ยกเลิกการหารือร่วมกับ ปธน.ปูติน ระหว่างการประชุม จี-20 ที่อาร์เจนตินา หลังจากที่รัสเซียได้ยึดกุมเรือสองลำของยูเครน และได้จับกุมลูกเรือเอาไว้จนถึงขณะนี้
ก่อนหน้าการหารือกับ ปธน.ปูติน ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประชุมนอกรอบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ อาเบะ, นายกฯ อินเดีย นเรนธรา โมดี และนายกฯ เยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ในวันเดียวกัน
ในวันเสาร์ ทรัมป์มีกำหนดจะพากับ ปธน.จีน สี จิ้นผิง โดยมีประเด็นสำคัญคือความขัดแย้งทางการค้าและการตั้งกำแพงภาษีสินค้าของสองประเทศ ซึ่ง ปธน.ทรัมป์ แสดงความหวังว่าจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีจากการประชุมครั้งนี้
หลังจากการประชุม จี 20 ผู้นำสหรัฐฯ จะเดินทางไปกรุงโซลของเกาหลีใต้ เพื่อพบกับประธานาธิบดี มูน แจอิน และจะเป็นโอกาสให้ทั้งคู่หารือประเด็นเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ
ในเรื่องนี้ยังคงมีหัวข้อที่ค้างอยู่หลังจากที่การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์ และคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์จบลงอย่างไร้ข้อสรุป ที่กรุงฮานอย เมื่อต้นปี