ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวในวันศุกร์ว่า เขาและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ควรพบและพูดคุยกันเกี่ยวกับสงครามในยูเครนและเรื่องราคาพลังงาน ตามการรายงานของรอยเตอร์
ผู้นำรัสเซียกล่าวด้วยว่าจะไม่มีการคุยเรื่องสันติภาพอย่างจริงจังกับยูเครน จนกว่าชาติตะวันตกผลักดันให้ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยกเลิกประกาศเมื่อปี 2022 ที่ห้ามเซเลนสกีเจรจากับเขา
วาระสงครามและราคาพลังงานกลายเป็นประเด็นขึ้นมาหลังจากทรัมป์ขู่ในสัปดาห์นี้ว่าจะกดดันรัสเซียด้วยมาตรการทางภาษีและลงโทษรัสเซียหากไม่ยุติสงครามในยูเครน
ผู้นำรัสเซียระบุว่าทรัมป์นั้นเป็นคนฉลาดและยึดหลักปฏิบัตินิยม และกล่าวว่า “จะเป็นการดีกว่าหากเรา (ทรัมป์และปูติน) ได้พบกัน เมื่อประเมินจากความเป็นจริงในวันนี้ เพื่อพูดคุยกันอย่างใจเย็นในวาระทั้งหลายเหล่านั้นที่เป็นผลประโยชน์ทั้งต่อสหรัฐฯ และรัสเซีย พวกเราพร้อมแล้ว”
ปูตินยังเพิ่มเติมด้วยว่า การจะพบและพูดคุยกันหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลวอชิงตันจะตัดสินใจอย่างไร
ความเคลื่อนไหวจากเครมลินครั้งนี้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ชัดเจนว่ารัสเซียอยากให้มีการประชุมสุดยอดผู้นำ ทรัมป์-ปูติน อย่างรวดเร็ว หลังจากไม่มีการพบปะกับผู้นำระดับสูงจากชาติตะวันตกมาเป็นเวลาสามปีหลังตัดสินใจรุกรานยูเครน
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาก็กล่าวว่าอยากพบปูติน และต้องการจบสงครามที่ “ไร้สาระ” ครั้งนี้ที่กำลังทำลายเศรษฐกิจของรัสเซีย
ที่ผ่านมา ปูตินระบุว่ามีความสัมพันธ์กับทรัมป์ในแบบที่ “เน้นการปฏิบัติและไว้ใจได้” นอกจากนั้นยังสนับสนุนข้อโต้แย้งของทรัมป์ที่ว่าตนคือผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ที่แท้จริง และพูดด้วยว่าสงครามในยูเครนจะไม่เกิดขึ้น หากทรัมป์เป็นผู้นำรัฐบาลวอชิงตัน
ประธานาธิบดีรัสเซียรายนี้สื่อสารไปยังชาติตะวันตก ที่สนับสนุนเงินหลัก “แสนล้าน” ให้ยูเครน ควรบีบให้เซเลนสกียกเลิกประกาศเมื่อปี 2022 ที่ห้ามรัฐบาลกรุงเคียฟเจรจากับปูติน โดยมองว่าหากยังมีคำสั่งนี้อยู่ การหารือใด ๆ จะไม่มีความชอบธรรมและอาจถูกโต้แย้งได้ในทางกฎหมาย
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัสเซียประกาศเป็นเจ้าของพื้นที่สี่แคว้นที่ใช้กำลังทหารยึดครองมาจากยูเครน จนทำให้หลายชาติสมาชิกองค์การสหประชาชาติประณามรัสเซียว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ในช่วงสัปดาห์นี้ ทรัมป์เรียกร้องให้ชาติผู้ผลิตน้ำมันกลุ่มโอเปกลดราคาน้ำมันลง โดยอ้างว่าจะเป็นจุดที่ทำให้สงครามยุติลง ซึ่งปูตินตอบโต้ว่าจะมีผลกระทบกับทั้งสหรัฐฯ และรัสเซีย ในฐานะผู้ผลิตและผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ของโลก
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น