ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า รัสเซียได้เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายไว้เพื่อส่งไปช่วยเหลือรัฐบาลเบลารุส "หากจำเป็น" เพื่อนำความสงบเรียบร้อยกลับคืนสู่ประเทศในแถบยุโรปตะวันออกแห่งนี้ หลังจากเกิดการประท้วงรัฐบาลและความวุ่นวายในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ผู้นำรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของทางการรัสเซียซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม โดยกล่าวว่า "จะไม่มีการใช้กองกำลังของรัสเซียหากสถานการณ์ไม่เข้าขั้นร้ายแรงและมีการข้ามเส้น รวมทั้งมีการปล้นร้านค้าต่าง ๆ"
คำกล่าวของประธานาธิบดีปูตินมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ใช้กำลังปราบปรามผู้ประท้วงที่ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในกรุงมินสก์มาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม หลังการเลือกตั้งที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตและไม่โปร่งใส ซึ่งนายลูคาเชนโกได้รับชัยชนะและได้ดำรงตำแหน่งอีกหนึ่งสมัย
ผู้ลงสมัครจากพรรคฝ่ายค้าน สเวียตลานา ซิคานูสกายา ระบุว่า ความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 6 คน ถูกจับกุมหลายพันคน และมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคนหลังจากที่ถูกตำรวจจับกุมตัวไป
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเบลารุสได้จัดตั้งกลุ่ม Coordination Council ขึ้นมา แต่มีรายงานว่าแกนนำของกลุ่มหลายคนได้ถูกจับกุมหรือถูกเรียกตัวไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลเบลารุสในช่วงที่ผ่านมา
ด้านศาลรัฐธรรมนูญของเบลารุสประกาศว่า การจัดตั้งกลุ่ม Coordination Council ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ และได้สั่งจำคุกแกนนำสองคนในข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการประท้วงเพื่อขับไล่ประธานาธิบดีลูคาเชนโก
ขณะเดียวกัน เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ พลเอกเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าวในกรุงเบอร์ลินหลังจากหารือกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกลา แมร์เคิล ในวันที่ 27 สิงหาคม เรียกร้องให้ประธานาธิบดีลูคาเชนโกเคารพในสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนชาวเบลารุส รวมทั้งสิทธิในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมอย่างสงบ พร้อมยืนยันว่าองค์การนาโต้กำลังจับตามองสถานการณ์ในเบลารุสอย่างใกล้ชิด
เลขาธิการนาโต้ยังได้ปฏิเสธคำอ้างของนายลูคาเชนโก ที่ว่ากองกำลังของนาโต้ได้ถูกส่งไปประจำการบริเวณพรมแดนเบลารุสแล้ว โดยระบุว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องที่ผู้นำเบลารุสใช้ข้ออ้างเรื่องกองกำลังนาโต้ดังกล่าวในการปราบปรามผู้ประท้วง