ผู้ประท้วงชาวฝรั่งเศสพากันปิดทางรถไฟและทางหลวงหลายเส้นทาง และเกิดการปะทะกับตำรวจในบางเมืองในขณะเดินขบวนทั่วประเทศเพื่อต่อต้านกฎหมายปฏิรูประบบเงินบำนาญที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง เป็นผู้ผลักดัน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลฝรั่งเศสออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องจากสหภาพแรงงานหลายแห่งที่ขอให้ระงับและทบทวนกฎหมายดังกล่าวที่ให้เพิ่มอายุของผู้เกษียณที่จะรับเงินบำนาญจาก 62 ปี เป็น 64 ปี ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจต่อบรรดาผู้นำสหภาพแรงงานและเร่งเร้าให้รัฐบาลหาแนวทางอื่นในการจัดการวิกฤติครั้งนี้
โลรองต์ แบร์แจร์ หัวหน้าสหภาพแรงงาน CFDT กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "เราได้เสนอทางออกของเรื่องนี้ไปแล้ว และเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่ข้อเสนอของเราถูกยับยั้งอีกครั้ง"
บรรดาพนักงานในภาคการคมนาคม การบิน และพลังงาน ต่างประท้วงหยุดงานต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทั่วฝรั่งเศส ขณะที่สหภาพนักศึกษา UNEF ประกาศปิดทางเข้ามหาวิทยาลัย 20 แห่ง
ชาลส์ เดอ คูร์ซอง แห่งพรรคฝ่ายค้าน Liot กล่าวว่า รัฐบาลฝรั่งเศสควรเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นอิสราเอล ที่ซึ่งรัฐบาลตัดสินใจระงับมาตรการปฏิรูประบบยุติธรรมหลังจากเผชิญการประท้วงครั้งใหญ่จากประชาชน
ทางรัฐบาลฝรั่งเศสยืนยันว่าจะเดินหน้าตามกฎหมายฉบับใหม่ต่อไปและจะมีผลบังคับใช้ปลายปีนี้ โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาดุลการเงินของประเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสใช้อำนาจพิเศษผ่านกฎหมายปฏิรูประบบเงินบำนาญนี้โดยไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ซึ่งยิ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชน มีผู้ประท้วงนับล้านคนออกมาชุมนุมตามท้องถนนในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ในวันอังคาร เกิดความรุนแรงและการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในหลายเมือง เช่น ที่เมืองน็องต์ส มีการจุดไฟเผากระดานไม้ที่นำมาปิดด้านหน้าธนาคาร BNP Paribas รวมทั้งจุดไฟเผารถยนต์และยิงพลุใส่ตำรวจ
รัฐมนตรีกิจการภายในฝรั่งเศส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกส่งไปช่วยควบคุมสถานการณ์ต่าง "เผชิญความเสี่ยงอย่างมาก" ในเหตุประท้วงครั้งนี้
- ที่มา: รอยเตอร์