หลังเหตุการณ์ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อเหตุบุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ก่อจลาจลหลายคนที่ถูกตามจับกุมตัว และหลายคนที่ต้องออกจากงาน ทั้งที่ลาออกเองและถูกไล่ออก
เมื่อวันเสาร์ สมาชิกรัฐสภารัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เดอร์ริค เอฟวานส์ จากพรรครีพับลิกัน ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่เขาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตันเมื่อวันพุธที่แล้ว
นายเอฟวานส์ถ่ายรูปเซลฟี่และออกอากาศสดผ่านเฟสบุ๊กขณะบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา ต่อมาเขาถูกตั้งข้อหาบุกรุกเขตหวงห้ามและประพฤติผิดระเบียบ ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิด เขาจะต้องโทษจำคุกราว 1 ปี 6 เดือน
มีผู้ก่อจลาจลอีกหลายคนที่ถูกจับกุมเช่นกัน รวมทั้ง นายริชาร์ด บาร์เน็ตต์ จากรัฐอาร์คันซอ ผู้บุกเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี และวางเท้าบนโต๊ะของเธอ ซึ่งเป็นภาพที่ถูกแชร์อย่างแพร่หลายทางอินเทอร์เน็ต ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์และอาจต้องโทษจำคุกหนึ่งปี
นายจาค็อบ แอนโธนี ชานสลีย์ ชายหนุ่มผู้สวมหมวกขนสัตว์มีเขาสองข้างและทาหน้าเป็นสีธงชาติอเมริกัน ถูกจับกุมในวันเสาร์และมีกำหนดให้การต่อศาลในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้มีผู้บุกรุกรัฐสภาอีกหลายคนที่ปรากฎใบหน้าอยู่ตามสื่อต่าง ๆ ราว 40 คนที่ถูกจับกุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน ส่วนใหญ่โดนตั้งข้อหาบุกรุกเขตหวงห้าม ละเมิดมาตรการเคอร์ฟิว ขโมยทรัพย์สินของรัฐบาล ละเมิดกฎหมายอาวุธปืน และก่อความวุ่นวาย
เหตุการณ์จลาจลครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตห้าคน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน
เจฟฟรีย์ โรเซน รักษาการรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงยุติธรรมรับรองว่าผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบต่อการ “โจมตีรัฐบาลและหลักนิติธรรม” จะต้องพบกับผลที่ตามมาอย่างเต็มรูปแบบภายใต้กฎหมาย
ด้าน คริสโตเฟอร์ เวรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ระบุว่า ทางเอฟบีไอใช้ “ทรัพยากรด้านการสืบสวนทั้งหมด” เพื่อจับกุมผู้กระทำผิด
ทั้งนี้ การโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ที่โรเซนระบุว่าเป็น “การโจมตีต่อสถาบันพื้นฐานของประชาธิปไตยอย่างรับไม่ได้” เริ่มขึ้นเมื่อผู้สนับสนุน ปธน. ทรัมป์หลายร้อยคนบุกเข้าอาคารรัฐสภา ขณะที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กำลังประชุมเพื่อรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน