ชาวมุสลิมอาศัยอยู่ในบริเวณตะวันตกของเกาะมินดาเนาและหมู่เกาะใกล้เคียงทางใต้ของฟิลิปปินส์ มานานกว่า 500 ปีแล้ว และคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวไม่พอใจเรื่องการควบคุมทรัพยากรธรรมชาติและสินแร่โดยชาวคริสต์ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ
ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้มีการปะทะต่อสู้กันมานานกว่า 50 ปี เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วรวมกว่า 120,000 คน ทั้งยังเป็นเหตุผลช่วยดึงดูดกลุ่มรัฐอิสลามจากภายนอกให้เข้ามาขยายอำนาจอิทธิพลในพื้นที่นี้ด้วย
แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว รัฐสภาฟิลิปปินส์ผ่านกฎหมายและประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ได้ลงนามเพื่อสร้างเขตปกครองตนเองบังซาโมโรสำหรับชาวมุสลิมมินดาเนาขึ้น โดยผู้คนในพื้นที่นี้ก็มีโอกาสแสดงประชามติรับรองกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 21 มกราคม รวมถึงในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพื่อช่วยกำหนดว่าเมืองหรือเขตใดที่ยินดีจะเข้าร่วม และเขตการปกครองตนเองที่จะตั้งขึ้นนี้จะมีขอบเขตพื้นที่กว้างขวางเพียงใด
ถึงแม้บทบัญญัติของกฎหมายเรื่องนี้จะไม่ถึงกับทำให้เกิดเขตปกครองตนเองทางใต้ของฟิลิปปินส์ซึ่งมีกองกำลังทหารเป็นของตนเอง หรือเป็นพื้นที่ๆ ห้ามชาวฟิลิปปินส์จากพื้นที่อื่นเข้าไปก็ตาม
แต่รัฐบาลฟิลิปปินส์ที่กรุงมะนิลาก็จะยอมมอบอำนาจการปกครองตนเองในระดับท้องถิ่นมากพอที่จะช่วยให้ชาวมุสลิมเหล่านี้รู้สึกว่าตนมีอำนาจอิสระตามที่ได้ต่อสู้เรียกร้องมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 และผู้ที่สนับสนุนแนวคิดเรื่องนี้ก็เชื่อว่า การทำความตกลงดังกล่าวจะช่วยระงับชนวนความขัดแย้งและการปะทะกันระหว่างกลุ่มชาวมุสลิมที่แข็งข้อต่อต้านและจับอาวุธกับกองกำลังด้านความมั่นคงของรัฐบาล ซึ่งมักส่งผลให้เกิดความสูญเสียในฝ่ายพลเรือนและปิดกั้นโอกาสการพัฒนาทางเศรษฐกิจด้วย
ทางด้านนายโมนารา มารูฮอม ผู้ช่วยคณบดีที่ศูนย์อิสลามศึกษาของมหาวิทยาลัย Mindanao State ในฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เรื่องนี้น่าจะสามารถช่วยรักษาชีวิตไม่ให้ต้องสูญเสียเพิ่มมากขึ้นได้ทั้งยังจะเป็นก้าวสำคัญเพื่อสร้างสันติภาพและความสงบสุขสำหรับคนรุ่นหลังของฟิลิปปินส์ด้วย
และตามกฎหมายซึ่งรองรับเรื่องการตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโรสำหรับชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนานี้ รัฐบาลกลางที่กรุงมะนิลาจะมอบเงินช่วยเหลือมูลค่า 5% ของยอดการจัดเก็บภาษีและอากรต่างๆ ในประเทศให้กับเขตปกครองตนเองดังกล่าว รวมทั้งจะจ่ายเงินช่วยเหลืออีกปีละ 95 ล้านดอลลาร์เป็นเวลา 10 ปีเพื่อช่วยบูรณะฟื้นฟูพื้นที่ๆ เคยมีปัญหาปัญหาขัดแย้งนี้เช่นกัน
ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้เองได้เคยรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนแปลงลักษณะการปกครองตนเองสำหรับชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนามาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี
นายอันโตนิโอ คอนเตรราส นักรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย De La Salle ในฟิลิปปินส์ก็เชื่อว่า กลุ่มติดอาวุธ Moro Islamic Liberation Front จะได้ประโยชน์จากการแสดงประชามติเรื่องนี้ และคงเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรปกครองตนเองที่จะตั้งขึ้นใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเสียงคัดค้านจะมาจากกลุ่มที่เกรงว่าการตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโรจะยิ่งทำให้ชาวมุสลิมกลุ่มต่างๆ ซึ่งแข่งขันช่วงชิงอำนาจกันอยู่มีความแตกแยกมากขึ้น และทำให้เกิดช่องว่างขึ้นมาในความสัมพันธ์ระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิมซึ่งขณะนี้ใช้ชีวิตร่วมกันอยู่อย่างสันติ